สุพรรณผักตบก็อื้อ

รมช.คมนาคมลงพื้นที่เองคุมรื้อผักตบนครชัยศรี กรมโยธาฯ ใช้รถตัดขนาดใหญ่ 3 คันลงลุยกระจุย

ระบุมีมากถึง 12,000 ตัน คาดใช้เวลา 3 วันเปิดทางให้เรือไปมาได้ แต่หากจะให้หมดภายใน 7 วันหมดคงต้องขอเครื่องมือสนับสนุนเพิ่ม ก่อนนำไปทิ้งและทำปุ๋ยหมัก ใครต้องการขอได้ที่โยธาฯ นครปฐม ด้านนายกเล็กโพธิ์พระยา สุพรรณฯ โวย ผักตบแน่นแม่น้ำท่าจีนเหมือนกัน ทำให้การคมนาคมทางน้ำเป็นอัมพาต เคยแจ้งให้อบจ.สุพรรณฯ ซึ่งรับผิดชอบมาจัดการ กลับขอน้ำมันสนับสนุนวันละหลายร้อยลิตร เลยกลัวว่าจะมีปัญหาจึงปฏิเสธ จนกลายเป็นเพิ่มจำนวน

จากกรณีที่ผักตบชวาจำนวนมหาศาลลอยมาติดตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน วัดสำโรง-ลานตากฟ้า

หมู่ 3 ต.วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นคร ปฐม จนหนาทึบ จนชาวบ้านใช้เป็นทางเดินสัญจร และเด็กลงไปเล่นเตะฟุตบอลกันได้ เต็มแม่น้ำท่าจีนยาวกว่า 1 ก.ม. สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรทางน้ำ และปลาที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำท่าจีน เพราะผักตบชวาที่มาติดเริ่มเน่าและส่งกลิ่นเหม็น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. หน่วยงานที่รับผิดชอบในการกำจัดวัชพืช

เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมเจ้าท่า กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี กรมชลประทาน และอบจ.นครปฐม ต่างนำเครื่องมือในการกำจัดและขนย้ายผักตบชวา และกำลังคนมาช่วยกัน โดยเฉพาะกรมโยธาธิการนำเรือตัดวัชพืชขนาดกว้าง 4.5 เมตร ยาว 9 เมตร บรรทุกผักตบชวาได้ครั้งละ 3 ตัน 3 ลำ มาจากจ.พระนครศรี อยุธยา 1 ลำ สุพรรณบุรี 1 ลำ และสมุทรสาคร 1 ลำ อบจ.นครปฐมส่งรถแบ๊กโฮ 2 คัน รถบรรทุกสิบล้อ 5 คัน มาสนับสนุนด้วย โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เช้ามืด

จากนั้นเวลา 08.00 น. นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม พร้อมคณะ เดินทางมาดูการทำงานและสั่งงานด้วยตนเอง ที่สะพานวัดสำโรง-ลานตากฟ้า

ก่อนที่จะเรียกผู้เกี่ยวข้องมาสอบถาม เพื่อทราบถึงปัญหาต่างๆ ในการกำจัดผักตบชวาเปิดทางน้ำและการขนย้าย พร้อมกับกล่าวว่า มอบหมายการดำเนินการควบคุมดูแลการกำจัดครั้งนี้ให้นางสุดา ชัยรัต โยธาธิการและผังเมือง จ.นครปฐม และนายสุชิน สืบพงษ์สกุล นายช่างโยธาชำนาญงาน เป็นผู้ช่วย ซึ่งคาดว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์ น่าจะเก็บผักตบชวาที่เป็นปัญหา ตามที่ได้รับรายงานมีมากถึง 12,000 ตันได้หมด เบื้องต้นให้เร่งเปิดทางน้ำให้เรือสัญจรไปมาได้ก่อนภายใน 3 วัน นอกจากนี้ จะให้จังหวัดและอำเภอขอความร่วมมือจากประชาชนที่อาศัยอยู่ตลอดแนวสองฝั่งของลำน้ำ ร่วมกันเก็บผักตบชวาในพื้นที่ตั้งแต่ต้นน้ำคือ ชัยนาท สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา มาจนถึงนครปฐม และสมุทร สาคร เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำซาก นอกจากนี้ จะหารือกับทางกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อแก้ไขปัญหาระยะยาวต่อไป และเมื่อนำขึ้นมาแล้วจะนำไปทิ้งที่ทุ่งกว้างใน อ.นครชัย ศรี จ.นครปฐม และบางส่วนที่อบต.มาขอไปทำปุ๋ยชีวภาพ จะเร่งทำให้เสร็จภายใน 7 วัน

ด้านนางสุดา กล่าวว่า ขณะนี้มีการวางแผนไว้ครบแล้ว ตั้งแต่เปิดทางน้ำให้เรือสัญจรไปมา

ก่อนจะผลักดันออกเป็นกอแล้วตักขึ้นรถไปทิ้งในพื้นที่ว่าง 10 ไร่ ของโครงการหมู่บ้านพฤกษา ต.ลานตากฟ้า อ.นครชัยศรี ซึ่งเจ้าของอนุญาตแล้ว ส่วนแห่งที่สองห่างจากจุดที่เก็บประมาณ 5 ก.ม. มีเนื้อที่ 3 ไร่ ปัญหาขณะนี้คือผักตบชวาหนาแน่นมากและหมักหมมกันหนากว่า 2 เมตร หากจะทำให้ทันตามที่ รมช.กำหนด 7 วัน จะต้องมีเครื่องมือมาเพิ่มทั้งรถตักทำลายและขนย้าย แต่ภายใน 3 วันนี้จะเปิดทางน้ำให้เรือสัญจรในแม่น้ำได้ก่อนและจะประสานขอให้ อบจ.นคร ปฐม ส่งเครื่องมือและรถบรรทุกมาช่วยอีกเพราะไม่เพียงพอ สำหรับ อบต.ที่มาขอวัชพืชไปทำปุ๋ยหมักขอให้มาแจ้งได้เลย

วันเดียวกันนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 นครปฐม มาตรวจคุณภาพน้ำพบว่า อยู่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน

วัดได้ค่าปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ 1.6 มิลลิกรัมต่อลิตร คาดว่าในช่วงกลางคืนจะต่ำลงไปอีกเพราะไม่มีแสงอาทิตย์ สาเหตุมาจากวัชพืชที่อยู่ใต้น้ำเมื่อหมักหมมนานๆ น้ำจะเน่า หลังจากเปิดทางระบายน้ำจะมีเจ้าหน้าที่คอยวัดตลอดเวลา นอกจากนี้ วัชพืชที่นำขึ้นมาจากน้ำจะทำให้น้ำขุ่น น้ำเสียจะกระจายตัวไป เบื้องต้นจะประสานไปยังกรมชลประทานขอให้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัย นาท ปล่อยน้ำไล่น้ำเสียออกไป

ด้านนายชาตรี เอี่ยมอำพรพงษ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลโพธิ์พระยา อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

เปิดเผยว่า สำหรับเรื่องผักตบชวาในแม่น้ำท่าจีน บริเวณ ต.โพธิ์พระยา ในอดีตหน้าที่จัดเก็บเคยเป็นของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาโพธิ์พระยา และเมื่อหลายปีก่อนหน้าที่จัดเก็บผักตบชวาถูกถ่ายโอนไปให้กับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี ให้มีหน้าที่จัดเก็บผักตบชวา โดยมีเรือจัดเก็บผักตบชวา แต่ก็ไม่รู้เหตุผลว่าทำไมไม่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ทิ้งช่วงการเก็บนานมาก ทำให้ผักตบชวาสะสมจนเต็มแม่น้ำท่าจีนแน่นไปหมดขณะนี้

ล่าสุดมีผักตบชวาจำนวนมากกินพื้นที่หลายกิโลเมตร ทำให้ใช้น้ำไม่ได้ ชาวบ้านคิดว่าเป็นหน้าที่ของเทศบาลตำบลโพธิ์พระยา

ทำให้มีชาวบ้านมาร้องเรียนจำนวนมาก ล่าสุด นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย ก็ยังคิดว่าเป็นหน้าที่ของเทศบาลตำบลโพธิ์พระยา และให้มีการจัดเก็บ จึงอธิบายให้ทราบไปแล้ว ตนคิดว่าถ้ามีการจัดเก็บอย่างต่อเนื่องไล่ไปตามแม่น้ำ เชื่อว่าในแม่น้ำท่าจีนจะไม่มีผักตบชวาลอยให้เห็น เพราะปัจจุบันการจัดเก็บทำแบบดินพอกหางหมู จึงเห็นผักตบชวาสะสมแบบนี้ ตนเคยทำหนังสือให้ อบจ.สุพรรณบุรี เข้ามาจัดเก็บผักตบชวาใกล้กับวัดวรจันทร์ แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธาของอบจ. กลับขอสนับสนุนน้ำมันในการดำเนินการวันละหลายร้อยลิตร ซึ่งเราศึกษาข้อระเบียบกฎหมายก็เกรงจะซ้ำซ้อนและเป็นดาบ 2 คมที่มาฟาดฟันตัวเอง หากมีการตรวจสอบขึ้นมาภายหลังจึงไม่ให้ ซึ่งถึงทุกวันนี้ทาง อบจ.ก็ยังไม่มาดำเนินการเลย แล้วโครงการในอนาคต ททท.สุพรรณบุรี จะช่วยผลักดันให้ตลาดโพธิ์พระยาเป็นแหล่งท่องเที่ยว เป็นตลาดริมน้ำยามเย็น ผักตบชวามากมายมหาศาลอย่างนี้จะทำอย่างไร และยิ่งโครงการล่องเรือเที่ยวริมน้ำไปตลาด 100 ปีสามชุก เชื่อว่าถ้ายังเป็นอย่างนี้หมดหวังแน่นอน