2หนูน้อยโผกอดพ่อ-แม่ทั้งน้ำตาเผยไม่ได้ทอดทิ้ง

2 ด.ญ.โผกอด พ่อ-แม่ ทั้งน้ำตาหลัง พม.ช่วยเหลือนำสองหนูน้อยไป รพ.พิจิตร

พร้อมระบุ จะส่งเสียให้ได้เรียนถึงปริญญาตรี ยกย่องเป็นเด็กยอดกตัญญู ขณะที่พ่อเมืองพิจิตร สั่ง รพ. ดูแลเต็มที่ ด้านแม่เผยไม่ได้ทอดทิ้ง แต่พ่อป่วยหนักอยู่จึงเดินทางกลับไปรับลูกไม่ได้
   
จากกรณี ด.ญ.วันเพ็ญ หรือน้องโม แซ่เล้า อายุ 12 ขวบ และ ด.ญ.กาญจนา หรือน้องส้ม แซ่เล้า อายุ 2 ขวบ ถูกพ่อแม่ทิ้งให้อยู่ในบ้าน

ริมถนนสายเลียบคลองชลประทาน บ้านพยอม-วังน้อย หมู่ 6 ต.วังน้อย อ.วังน้อย จ.พระนคร ศรีอยุธยา ตามลำพังโดยบอกจะไปหาหมอแล้วรีบกลับ ก่อนหายตัวไป 3-4 วัน ต้องอาศัยข้าวก้นบาตรพระประทังชีวิต อยู่กันแบบเสียขวัญ ตกดึกร้องไห้กันกระจองอแงจนชาวบ้านสงสัย แจ้งนายอำเภอประสาน พม.อยุธยา เข้าช่วย  เหลือ รับตัวไปดูแลระหว่างเจ้าหน้าที่ติดตามหาพ่อแม่ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
   
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.พระนครศรี อยุธยา

ถนนโรจนะ เลขที่ 34/-3 หมู่ 2 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา นายอิสสระ สมชัย รมว. การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นางวาสินี ผิวผ่อง นายกเหล่ากาชาดจังหวัด พร้อมคณะได้นำของใช้ส่วนตัวเสื้อผ้า ผ้าห่ม แป้ง สบู่ยาสีฟัน และเงินสดจำนวนหนึ่ง มอบให้น้องโม และน้องส้ม โดย นายอิสสระ เปิดเผยว่าทาง กระทรวงมีแผนการช่วยเหลือทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ถ้าครอบครัวไม่มีบ้านพักจะให้เด็กพักที่สถานสงเคราะห์รับเลี้ยงเด็ก พร้อมทั้งส่งเสียให้ ได้เรียนถึงปริญญาตรี ซึ่งในเบื้องต้นทางกระทรวง ศึกษาธิการมีโรงเรียนประจำที่จะให้เด็กไปเรียนที่จ.ชัยนาท 
   
ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับครอบครัวของเด็กและตัวเด็กด้วย เบื้องต้นเด็กถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังพ่อกับแม่เดินทางไปหาหมอที่ จ.พิจิตร

ทราบว่าพ่อป่วยเป็นมะเร็งในตับและแม่เป็นวัณโรคปอด ทางแพทย์ได้ทำการรักษาอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งได้ส่งเด็กขึ้นรถเพื่อไปหาพ่อแม่ที่ จ.พิจิตร นับว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กยอดกตัญญูเพราะช่วงที่อยู่กับพ่อแม่ที่บ้านพักใน อ.วังน้อย ได้ช่วยหาอาหารและต้มยาให้พ่อแม่กินอยู่ตลอด 
   

ด้าน น.ส.ละอองดาว เตือนผล นักสังคม สงเคราะห์ (ปฏิบัติงานจิตวิทยา) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

เปิดเผยว่าตั้งแต่ไปรับเด็กมาดูแลพบว่าเด็กทั้ง 2 คนมี   ท่าทางสดชื่นคลายความกังวลไม่ร้องไห้แต่ยังมีบางครั้งโดยเฉพาะ น้องโม ยังมีอาการซึมเศร้าเป็นช่วงเจ้าหน้าที่ได้พยายามปลอบโยนและอธิบายว่าพ่อแม่ไม่ได้ทอดทิ้ง จะตามตัวให้พบ โดยเมื่อเช้า น้องโม ตื่นนอนขึ้นมาก็ช่วยเหลือเก็บกวาด ห้องพักและกวาดบริเวณบ้านพักโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้บอกกล่าว นับว่าเด็กคนนี้มีความรับผิดชอบไม่ได้นิ่งดูดาย
   
ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อกับ นางอุ่นเรือน สุขเกษม แม่ของเด็กได้แล้วโดย นางอุ่นเรือนบอกว่าไม่ได้เจตนาทิ้งลูกแต่สามีไม่สบายหนักจึงบอกกับลูกว่า จะพาพ่อไปหาหมอ

ให้ลูกอาศัยอยู่ที่ห้องพักนี้ไปก่อนแล้วจะรีบกลับมา จากนั้นนางอุ่นเรือนพร้อม นายสมเกียรติ แซ่เล้า สามีและ ด.ญ.ทัดดาว ลูกสาวคนโต ได้ขี่รถ จยย. เดินทางไปที่ รพ.โพทะเล อ.โพทะเล จ.พิจิตร ซึ่งสามีเคยรักษาตัวอยู่ แต่อาการหนักต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.พิจิตร ขณะนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเบื้องต้นทราบว่ามีอาการติดเชื้อที่ปอดและมีไข้ขึ้นสูง “ตนและสามีไม่ได้ทิ้งลูก แต่เป็นเพราะตนขี่จักรยานยนต์กลับไม่ได้ และจะนั่งรถกลับก็ไม่มีเงิน จะโทรฯ ติดต่อก็ไม่มีโทรศัพท์ จึงต้องปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง”
   
น.ส.ละอองดาว กล่าวต่อว่า ทางบ้านพักเด็กยินดีที่จะดูแลเด็กต่อไปจนกว่าทางครอบครัวพ่อแม่พี่น้องสะดวกและมีความพร้อมที่จะดูแล

และในวันนี้ทางกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการให้เจ้าหน้าที่พาเด็กไปพบกับพ่อแม่ที่ จ.พิจิตร  และได้โทรศัพท์ให้ น้องโม ได้พูดคุยกับแม่ โดย น้องโม พูดกับแม่ประโยคแรกว่า “หนูรักพ่อรักแม่ พ่อเป็นอย่างไรบ้างอาการหนักไหม หนูและน้องคิดถึงพ่อแม่มาก อยากพบพ่อแม่เร็ว ๆ    หนูต้มยาไว้ให้พ่อแล้วกลับมากินจะได้หายไว ๆ” จากนั้นน้องโม และน้องส้ม ได้ออกรายการช่อง 3 ซึ่งอาการของ นายสมเกียรติ ล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว โดยแพทย์ให้อยู่พักอีก 3-4 วัน
   
ส่วน น้องโม กล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อพ่ออาการดีขึ้นแม่บอกว่าพ่อกับแม่ได้ทิ้งหนูทำให้ตนมีกำลังใจมากขึ้น ส่วนการอยู่ที่บ้านพัก เด็กแห่งนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนช่วยเหลืออย่างดี เมื่อคืนนอนหลับก็ไม่ได้ฝันร้ายอีกขณะนี้อยากพบพ่อแม่มากที่สุดและขอบคุณกาชาดจังหวัด เจ้าหน้าที่ ทุกคนและสื่อมวลชน ที่ได้ช่วยเหลือเป็นอย่างดี
   
อีกด้านหนึ่งที่ รพ.พิจิตร วันเดียวกัน นายสมชัย หทยะตันติ ผวจ.พิจิตร พร้อมคณะได้เดินทางไปเยี่ยม นายสมเกียรติ ที่พักรักษาตัวอยู่ด้วยโรคปอดติดเชื้อ

โดยได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและเงินจำนวนหนึ่งเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมทั้งได้สั่งการให้ พม.จ.พิจิตร ช่วยดูแลหางานให้ทำ และให้ รพ.พิจิตร เป็นผู้ดูแลเรื่องสุขภาพของครอบครัวนี้ด้วย ต่อมาเวลา 18.30 น. น้องโม และน้อง ส้ม เดินทางด้วยรถตู้ของสำนักงาน พม.จ. อยุธยา มาถึง รพ.พิจิตร ที่พ่อนอนรักษาตัวอยู่ โดยมี นางอุ่นเรือน ผู้เป็นแม่มาคอยรับ ซึ่งทั้งคู่ต่างวิ่งเข้าสวมกอดกันทั้งน้ำตาจากนั้นสองหนูน้อยได้เดินไปยังเตียงที่นายสมเกียรติ นอนพักรักษาตัวอยู่ โดยน้องโม ได้ตรงไปจับมือพ่อแล้วกำไว้ สร้างความตื้นตันให้แก่ญาติ ๆ ที่มาเฝ้าไข้ หลังจากที่ให้พ่อแม่ลูกได้อยู่ด้วยกันประมาณ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ พม.จ.พิจิตร ได้รับตัว 2 หนูน้อย ไปตรวจสภาพร่างกาย และนำไปพักที่หน่วยงาน เพื่อรอให้ผู้เป็นพ่อหายเสียก่อน จึงจะมอบให้สองสามีภรรยานำไปดูแลอย่างเดิมต่อไป.