โหรอินเดียเชื่อสุริยคราสทำโลกป่วน

โหรอินเดียเชื่อ "สุริยุปราคา" เป็นสัญญาณของลางร้าย อาจมีผู้นำตาย เกิดสงคราม ความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับอิหร่าน บริษัททัวร์หัวใสจัดบินเหนือท้องฟ้าดูพระอาทิตย์ถูกกลืน

โหรอินเดียเชื่อปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง ซึ่งจะปรากฏให้เห็นในเช้าวันที่ 22 กรกฎาคม จะส่งผลทำให้เกิดความรุนแรงและความยุ่งเหยิงขึ้นทั่วโลก

ทั้งนี้ ชาวฮินดูเชื่อว่าปรากฏการณ์สุริยุปราคาเกิดจากการที่พระราหูและพระเกตุกลืนดวงอาทิตย์เข้าไป

และในวันที่เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้ หญิงตั้งครรภ์ไม่ควรออกนอกบ้านขณะเกิดเหตุสุริยุปราคา เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กในท้องพิการ โดยนางสิวนี สักเทพ กูร์ นรีแพทย์จากโรงพยาบาลฟอร์ติส ในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เปิดเผยว่า มีหญิงตั้งครรภ์หลายคนที่มีกำหนดคลอดในวันที่ 22 กรกฎาคม แต่ได้ขอเลื่อนวันคลอดไปเป็นวันอื่นแทน

ขณะที่โหรอินเดียทำนายว่า ปรากฏการณ์สุริยุปราคาซึ่งจะเห็นได้ในบางส่วนของอินเดีย จีน และประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งในไทย ในวันที่ 22 กรกฎาคม จะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นในอีกไม่กี่วันต่อมา

โดยนายราช กุมาร ชาร์มา โหรจากมุมไบทำนายไว้ว่า จะเกิดการโจมตีดินแดนอินเดียจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนแคชเมียร์ หรืออาจจะเป็นกลุ่มอัลเคด้า และจะเกิดหายนะครั้งใหญ่จากภัยธรรมชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ จะมีการสังหารนักการเมืองระดับสูงของอินเดีย และความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับประเทศอิหร่านจะทวีความรุนแรงมากขึ้น จนอาจทำให้สหรัฐเปิดฉากปฏิบัติการทางทหาร หลังจากวันที่ 9 กันยายนไปแล้ว เมื่อดาวเสาร์เคลื่อนออกจากกลุ่มดาวสิงโตไปยังกลุ่มดาวหญิงสาว โดยโหรชาร์มากล่าวว่า ครั้งที่ดาวเสาร์เคลื่อนเข้าสู่กลุ่มดาวหญิงสาว เมื่อ 200 ปีก่อน ก็ทำให้เกิดสงครามโลกหรือสงครามโลกย่อยๆ มาแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายซานาล เอดามารุกุ ประธานสมาคมผู้รักเหตุผลของอินเดีย ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการทำนายต่างๆ

ว่าเป็นเพียงการฉวยโอกาสของบรรดาโหรที่ต้องการจะกอบโกยด้วยการทำนายว่าจะเกิดอันตรายและหายนะใหญ่หลวงขึ้น ซึ่งบรรดานักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ต่างทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้ความรู้กับประชาชนเกี่ยวกับปรากฏการณ์สุริยุปราคา

ขณะที่บริษัทท่องเที่ยว ค็อกซ์ แอนด์ คิงส์ ได้จัดเครื่องบินเช่าเหมาลำ โบอิ้ง 737-700 ให้ประชาชนที่อยากจะขึ้นไปชมปรากฏการณ์สุริยุปราคาที่ความสูง 12,500 เมตร โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจะต้องเสียเงินคนละ 79,000 รูปี (ราว 56,000 บาท) สำหรับเที่ยวบินระยะเวลา 3 ชั่วโมง จากกรุงนิวเดลี (เอเอฟพี)