พ่อค้าเขมรหวั่นปะทะอพยพออกพื้นที่ ทหารห้ามปชช.ใกล้ชายแดน สุเทพ ปัดคุยถอนทหารฮุนเซ็น

"สุเทพ"ร่วมพิธีเปิดถนนที่เขมร ปัดคุยเรื่องการถอนกำลังทหาร 2 ฝ่าย แต่มั่นใจไม่เกิดเหตุรุนแรง ทหารประกาศห้ามชาวบ้านเข้าใกล้แนวชายแดน พ่อค้าเขมรหวั่นปะทะกัน อพยพคนแก่-เด็ก-ผู้หญิงออกจากพื้นที่ คนไทยไม่สนยังเที่ยวเสียมราฐ

"สุเทพ"อ้าง"ฮุนเซน"พูดไทยเป็นมิตร
 
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าววันที่ 4 กรกฎาคม ภายหลังเดินทางกลับจากการเปิดถนนที่ประเทศกัมพูชาว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา พูดในพิธีเปิดถนนกับชาวกัมพูชาที่มาร่วมงานว่า ไทยกับกัมพูชามีความสัมพันธ์และเป็นมิตรที่ดีต่อกัน โดยถนนเส้นนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับกัมพูชาให้ดีขึ้น โดยสมเด็จฯฮุน เซน ขอบคุณรัฐบาลไทยและฝากความระลึกถึงนายอภิสิทธิ์ด้วย

ไม่ได้พูดเรื่องถอนกำลังทหาร

"แต่การเดินทางไปครั้งนี้ไม่ได้พูดคุยกันถึงปัญหาความขัดแย้งกรณีเขาพระวิหาร หรือการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ของทั้งสองประเทศ เพราะผมเดินทางไปเพียงสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกันเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น" นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้งว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวปราศรัยกับชาวกัมพูชาว่า ชาวกัมพูชากับไทยเป็นเพื่อนบ้านกัน ควรมีไมตรีจิตต่อกัน ซึ่งตนก็บอกว่า คนไทยอยากคบหาเป็นพี่น้องกับกัมพูชาและอยากพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกัน ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปอย่างดี

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากกลับจากกัมพูชาครั้งนี้ สัญญาณความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะมีทิศทางดีขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ ตอบว่า ทั้งสองประเทศมีความประสงค์ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น หลังจากนี้จะมีการหารืออย่างเป็นทางการของคณะทำงานของทั้งสองประเทศเพื่อลดความตึงเครียดตามแนวชายแดนต่อไป 

วันเดียวกัน นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมพ.ท.จิตรกร จันทร์สว่าง รองเสนาธิการกรมทหารราบที่ 16  หัวหน้าที่ทำการยุมธวิธีกองกำลังสุรนารี ส่วนแยกช่องสะงำ และคณะเดินทางเข้าตรวจพื้นที่บริเวณถนนหมายเลข 67 ช่วงเขตรอยต่อระหว่างไทย-กัมพูชา และเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ สู่ อ.อัลลองเวง ปรากฎว่ายังไม่สามารถเปิดบริการใช้เส้นทางได้ เพราะยังติดปัญหาเรื่องเขตแดน โดยนายระพีกล่าวว่า อีกไม่นานการเดินทางผ่านถนนเส้นนี้จะไม่มีปัญหา

ห้ามชาวบ้านใกล้แนวชายแดน

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเขาพระวิหารติดกับอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ทหารไทยและกัมพูชายังคงตรึงกำลังเข้มตลอดแนวรอบบริเวณเขาพระวิหาร โดยตั้งฐานอยู่ห่างกันประมาณ  50 เมตร  ขณะที่ชาวบ้านภูมิซรอลอาศัยอยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา และมีอาชีพเก็บของป่าขายต้องไปหาที่อื่นแทน เนื่องจากทางทหารประกาศไม่ให้เข้าไปใกล้กับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย กล่าวว่า  ชาวบ้านทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย ยังอยู่ในสภาวะปกติไม่ได้อพยพเคลื่อนย้ายไปไหน แต่ประกาศเตือนชาวบ้านว่าไม่ควรเข้าไปใกล้ตามแนวชายแดนที่ทหารทั้ง 2 ฝ่ายกำลังตรึงกำลังอยู่ เกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายได้ ขณะที่ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านทุกหมู่ก็เตรียมความพร้อมตลอดเวลาหากมีฝ่ายตรงข้ามบุกรุกเข้าเขตแดนไทย ก็พร้อมร่วมกับทหารไทยเพื่อต่อสู้ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ

พ่อค้าเขมรหวั่นรบอพยพคนแก่-เด็ก

นายจักรกฤษณ์ โตมาซา เจ้าพนักงานศุลกากรระดับชำนาญงาน ประจำด่านศุลกากรช่องจอม จ.สุรินทร์ ปฏิบัติราชการจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เผยว่า ขณะนี้พ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาที่ทำมาค้าขายบริเวณตลาดฝั่งกัมพูชาใกล้จุดผ่านแดนต่างหวั่นเกรงจะมีการรบกันจริง หลังมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าทหารไทยอาจรบกับทหารกัมพูชา จึงพากันอพยพคนชรา เด็ก และสตรี รวมทั้งหญิงบริการ ออกจากพื้นที่เป็นจำนวนมาก จะเหลือแต่ผู้ชายที่จำเป็นต้องเฝ้าร้านค้า ทำให้ตลาดเงียบเหงา และยังทำให้คนขับรถยนต์รับจ้างในฝั่งกัมพูชาที่วิ่งจากจุดผ่านแดนช่องสะงำ ถึง อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ฉวยโอกาสขึ้นราคาค่าเหมารถ จากคันละ 600 บาท เป็นคันละ 2,000 บาท ในระยะทางแค่ 16 กิโลเมตร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันมีคณะทัวร์จาก จ.กาฬสินธุ์ กว่า 200 คน เดินทางข้ามแดนที่จุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำไปยังกัมพูชา นักท่องเที่ยวรายหนึ่งในคณะทัวร์นี้กล่าวว่า จะเดินทางไปเที่ยว จ.เสียมราฐ  เพื่อชมนครวัด-นครธม และไม่กังวลแต่อย่างใดเพราะเป็นการเดินทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่คิดว่าจะมีปัญหาเพราะชาวกัมพูชาก็ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ ส่วนความขัดแย้งถือเป็นเรื่องของหน่วยงานที่รับผิดชอบต้องหาทางแก้ไขเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น