วรนุชโล่ง! เลิกเปลี่ยนชื่อเหี้ย

โดนด่าอื้อ-ผอ.สัตว์ป่าแจงวุ่น ขอโทษทำกระทบชื่อ-สกุลคน

โดนต่อว่าไม่เหมาะสม เล็งเปลี่ยนชื่อ "ตัวเหี้ย" เป็น "วรนุช" หรือ "วรนัส" ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานฯ แจงวุ่นไม่มีแนวคิดตั้งชื่อใหม่ ขออภัยสื่อสารไม่ชัดเจน แค่เปรียบเทียบชื่อทางวิทยาศาสตร์กับชื่อไทย พร้อมทั้งขอโทษคนชื่อวรนุชจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ราชบัณฑิตภาษาไทยก็ไม่เห็นด้วย ชี้ควรปล่อยให้เป็นไปตามปกติ รวมทั้ง "แม่ผ่องศรี วรนุช" ศิลปินแห่งชาติ แนะให้เลี่ยง เพราะญาติพี่น้องที่หลังสวนใช้นามสกุลวรนุชกันทั้งนั้น ฝากไว้เป็นข้อคิดด้วย

จากกรณีสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ มีแนวคิดเปลื่อนชื่อสัตว์เลื้อยคลาน "ตัวเงินตัวทอง" หรือ "เหี้ย" เสียใหม่ว่า "วรนุช" หรือ "วรนุส" หรือ "วรนัส" ซึ่งใกล้เคียงและคล้ายกับชื่อทางวิทยาศาสตร์ของสัตว์ประเภทนี้ว่า "Varanus salvator" โดยอ้างว่าอาจทำให้คนเลิกเอาชื่อตัวเหี้ยไปเป็นคำด่าทอกันอีก อีกทั้งในปัจจุบันตัวเงินตัวทองกำลังก่อปัญหาให้แก่ชาวบ้านอย่างหนัก เพราะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ถึงขั้นบุกเข้าไปขโมยกินอาหารในบ้าน จึงมีแนวคิดส่งเสริมทำฟาร์มเลี้ยงเพื่อส่งออก เพราะหนังของมันเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ในการเปลี่ยนชื่อเรียกดังกล่าวมีผู้ทักท้วงว่าอาจไม่เหมาะสม โดยเฉพาะคนที่ชื่อวรนุช ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า ทางกรมอุทยานฯ ยังไม่มีแนวคิดเปลี่ยนชื่อเรียกตัวเงินตัวทอง ด้วยการเรียกขานทับตามคำศัพท์ชื่อทางวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน ข่าวที่ออกมาอาจสร้างความกระทบกระเทือน และไม่สบายใจกับคนที่มีชื่อว่า วรนุช และวรนัส ดังนั้น ทางกรมอุทยานฯ ต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความสับสน

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวคิดแก้กฎหมาย เพื่อให้สามารถเพาะพันธุ์ตัวเหี้ยได้นั้น ขณะนี้ยังไม่เร่งดำเนินการ ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษาวิจัยเท่านั้น เพราะจะต้องดูอย่างละเอียด ทั้งพฤติกรรม และวงจรชีวิตของสัตว์ชนิดนี้ และต้องรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย ว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่จะนำมาเลี้ยงแบบฟาร์ม เพื่อฆ่าเอาเนื้อและหนังมาทำประโยชน์ คงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ก่อนตัดสินใจว่าจะทำได้หรือไม่

"ที่ผ่านมาอนุญาตให้เพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ที่เคยอยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครองมาแล้ว เช่น นกเขาชวา ไก่ฟ้า อีกทั้งยังมีจระเข้ เก้ง กวาง ในการอนุญาตให้เพาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์ได้นั้น ต้องมีขั้นตอนกระบวนการและศึกษาวิจัยรองรับอย่างดี ส่วนเจ้าตัวเหี้ยนี้คงต้องรอดูผลการศึกษาก่อนว่าเป็นอย่างไร" นายเกษมสันต์กล่าว

ด้านนายชัชวาล พิศดำขำ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ต้องขออภัยที่อาจสื่อสารไม่ชัดเจนจนทำให้เกิดความเข้าใจผิดไปมากมาย เพราะจริงๆ แล้วกรมอุทยานฯ ไม่ได้มีหน้าที่เสนอเปลี่ยนชื่อสัตว์แต่อย่างใด และไม่ได้คิดที่จะให้เปลี่ยนชื่อเรียก แต่ชี้ให้เห็นว่าตามชื่อทางวิทยาศาสตร์คล้ายกับภาษาไทยที่เรียกไพเราะได้ แต่การนำเสนอของตนอาจไม่ชัดเจน ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ต้องขอโทษผู้ที่มีชื่อวรนุช หรือผู้ที่มีญาติพี่น้องที่มีชื่อนี้ด้วย และหลังปรากฏเป็นข่าวมีผู้โทรศัพท์มาต่อว่ามากมาย พร้อมทั้งชี้แจงนายเกษมสันต์แล้ว ซึ่งนายเกษมสันต์เข้าใจดี ยืนยันว่าไม่ได้มีความพยายามผลักดันให้เปลี่ยนชื่ออย่างแน่นอน

"ข่าวที่ออกมาอาจจะเกิดจากความเข้าใจผิดในการสื่อสารของผมเอง ต้องขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบด้วย เพราะไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายขึ้น เพียงแต่อยากชี้ให้ประชาชนเห็นว่าสัตว์ชนิดนี้ไม่ได้เป็นสัตว์ที่ดุร้าย ที่จ้องจะทำร้ายผู้อื่น ถ้าไม่ถูกทำร้ายก่อน หรือจนมุมจริงๆ แต่มันกลับมีประโยชน์ในระบบนิเวศ จึงไม่อยากให้รู้สึกรังเกียจมันเท่านั้น" นายชัชวาลกล่าว

ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวต่อว่า แม้ตัวเหี้ยจะเป็นสัตว์ที่อยู่ในบัญชีสัตว์คุ้มครอง แต่เจ้าหน้าที่เคยพบว่ามีคดีจับกุมผู้ล่าสัตว์พวกนี้มาขาย และยังเคยพบด้วยว่ามีวางขายตัวเหี้ยในร้านอาหารและตลาดสด บางแห่งราคาค่อนข้างสูงด้วย เนื่องจากยังมีคนบางกลุ่มที่ยังบริโภคเนื้อสัตว์ประเภทนี้อยู่ แต่ในส่วนประชาชนทั่วไปอยากฝากว่าหากพบตัวเหี้ย หรือตัวเงินตัวทอง เข้ามาสร้างความรบกวน หรือเมื่อเจอก็ขออย่าตกใจ เพราะจะไม่ทำร้ายคน แต่จะหลบหนีมากกว่า ทางที่ดีขอให้แจ้งมายังกรมอุทยานฯ หมายเลข 1362 เพื่อจะส่งเจ้าหน้าที่ไปจับและนำมาดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ก่อนจะนำไปปล่อยในพื้นที่ที่เหมาะสม และไม่ออกมารบกวนประชาชนต่อไป

ต่อข้อถามว่าหากจับตัวเหี้ยได้มากๆ กรมอุทยานฯ มีงบประมาณเลี้ยงดูเพียงพอหรือไม่ นายชัชวาลกล่าวว่า บางส่วนที่ปล่อยกลับเข้าป่าไปได้ก็จะปล่อยไป ถ้าปล่อยไม่ได้ก็ต้องเลี้ยงไปตลอดชีวิต แม้ในด้านงบประมาณจะมีอยู่อย่างจำกัด แต่ทางสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ หาวิธีแก้ปัญหา โดยให้เจ้าหน้าที่ปลูกพืชผักที่สัตว์กินได้ไว้เลี้ยงสัตว์เอง หรือรับซื้ออาหารพวกผักชนิดต่างๆ จากชาวบ้าน ที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนจากการบริจาคจากประชาชน โดยสำนักอนุรักษ์ฯ ขอความกรุณาว่าช่วยอนุเคราะห์กับสัตว์จำพวกเสือ และหมีก่อน เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า โดยผ่านโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า ส่วนสัตว์ประเภทอื่นๆ ทางเรายังพอรับมือได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายประภาศ บุญยินดี ผวจ.สมุทรสงคราม ขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ จัดทำโครงการจัดการสัตว์ป่าคุ้มครอง (เหี้ย) ภายใต้พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ในท้องที่ จ.สมุทรสงคราม หลังจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าได้รับความเดือดร้อนจากตัวเหี้ย โดยการดำเนินโครงการนี้มีเจ้าหน้าที่จากส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) จ.ราชบุรี นำโดยนายเอิบ เชิงสะอาด ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า จัดเจ้าหน้าที่ออกจับในพื้นที่ ต.ท่าคา อ.อัมพวา, ต.นางตะเคียน, ต.ลาดใหญ่ และ ต.บ้านปรก อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ได้เหี้ย 184 ตัว และยังตั้งเป้าว่าจะจับให้ได้อย่างน้อย 400 ตัว ในระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.ถึงวันที่ 31 ก.ค.นี้ ก่อนจะนำไปปล่อยในเขตควบคุมสัตว์สงวนศูนย์เพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี มีพื้นที่รองรับกว่า 2,000 ไร่

สำหรับความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนชื่อตัวเงินตัวทองเป็นวรนุชนั้น วันเดียวกัน นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้ช่วย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะเปลี่ยนเป็นชื่อผู้หญิง คงต้องพิจารณาและไตร่ตรองให้รอบคอบ เนื่องจากผู้หญิงชื่อวรนุชมีมาก อาจเกิดผลกระทบได้ ความจริงแล้วการเรียกสัตว์ประเภทนี้ว่าตัวเงินตัวทองก็น่าจะเหมาะสมแล้ว แต่บางคนอาจจะมองเป็นคำเรียกในแง่ลบอีก คิดว่าเรื่องนี้น่าจะต้องเปลี่ยนทัศนคติในแง่ไม่ดีต่อสัตว์ประเภทนี้ใหม่มากกว่า ว่าไม่ใช่สัตว์ที่นำโชคร้ายมาให้

ด้าน ศ.ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต และนายกสมาคมครูสอนภาษาไทย กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชื่อตัวเงินตัวทอง เพราะภาษาควรปล่อยให้เป็นไปตามปกติ อย่าไปตั้งอะไรที่พิเศษ หรือแปลกประหลาดเลย และไม่เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องไปทำอะไรที่ไม่มีประโยชน์ หรือปรับเปลี่ยนอะไรให้วุ่นวาย ในส่วนของราชบัณฑิตไม่ได้ดูแลเรื่องการตั้งชื่อ เพียงแต่ดูแลและกำกับในเรื่องของการเขียน อาทิ ต้องใช้ตัวสะกด และการันต์อย่างไร หรือการเขียนผิดเพี้ยนไปหรือไม่

ขณะที่ผ่องศรี วรนุช นักร้องลูกทุ่ง และศิลปินแห่งชาติ วัย 71 ปี กล่าวว่า ไม่เข้าใจว่าจะเปลี่ยนชื่อทำไม จริงๆ แล้วเรียกตัวเงินตัวทองดีอยู่แล้ว ถ้าเลี่ยงได้ก็ไม่อยากให้ใช้ว่าวรนุช เพราะนามสกุลนี้พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ใช้กันมา โดยเฉพาะญาติๆ ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตัวแม่ผ่องเองมีพี่ชาย 8 คน อยากจะฝากไว้ให้เป็นข้อคิดตรงนี้