ร่วมพิธีอาบน้ำศพ ฮีโร่พเยาว์-เพียบ

จากการจากไปของ ร.ต.อ.พเยาว์ พูลธรัตน์ วีรบุรุษขุนพลเสื้อกล้ามเจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกเหรียญแรกของไทย เมื่อเย็นวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ด้วยโรค เอแอลเอส เส้นเลือดในสมองตีบ หลังเข้ารักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศิริราช มาเป็นเวลานาน ต่อมาในเย็นวันที่ 14 ส.ค.ที่ศาลา 4 วัดตรีทศเทพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพและพระราชทานพระพิธีธรรมเป็นเวลา 3 คืน

โดยมี พล.ท.จุล อดิเรก อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นประธานในพิธี ท่ามกลางบุคคลสำคัญทั้งในวงการกีฬาและการเมือง มาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำ ส.ส.มาร่วมงานด้วยจำนวนหนึ่ง พล.อ.ทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย นายทรงชัย รัตนสุบรรณ โปรโมเตอร์มวยชื่อดัง ฯลฯ

จากนั้นในช่วงค่ำเป็นพิธีสวดพระอภิธรรม ซึ่งอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์เป็นเวลา 3 คืน แล้วจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมไปจนถึงวันที่ 18 ส.ค.นี้ จากนั้น ในวันที่ 19 ส.ค.มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ในเวลา 16.00 น.

ต่อมานายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ในฐานะกรรมการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมพิธีอาบน้ำศพอดีตขุนพลเสื้อกล้ามผู้สร้างชื่อเสียงให้ไทยอย่างมากผู้นี้ว่าในวันที่ 16 ส.ค.นี้ในที่ประชุมคณะกรรมการฯ จะมีการนำเสนอเรื่องการช่วยครอบครัว ร.ต.อ.พเยาว์เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลด้านการกีฬา ได้ กำชับให้มีการช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ด้าน นางอดาวัลย์ พูลธรัตน์ ภรรยา ร.ต.อ.พเยาว์ กล่าวถึงกรณีนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้ กกท.ให้ความช่วยเหลือครอบครัว พูลธรัตน์ หลังจากเสียผู้นำครอบครัวไปว่า รู้สึกขอบคุณผู้ใหญ่ในวงการกีฬาทุกๆท่าน ที่ให้การช่วยเหลือครอบครัวมาโดยตลอด นับตั้งแต่ที่พี่จ้อน (พเยาว์ พูลธรัตน์) ล้มป่วย พี่จ้อนรู้สึกดีใจที่ผู้คนไม่เคยลืมเขาจนลมหายใจสุดท้าย อย่างไรก็ตาม ตนและลูกๆ คงไม่มีข้อเรียกร้องอะไร

เพราะทาง กกท. ให้การช่วยเหลือมามากพอสมควรแล้ว อีกอย่างพี่จ้อนมักจะพูดให้ฟังเสมอว่า เราอยู่กันได้ โดยไม่เรียกร้องอะไรจากใคร และก่อนที่จะเสียชีวิตพี่จ้อนยังขอให้มีการจัดงานศพที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตนและลูกจะลำบากในการจัดงานศพ

เมื่อถามว่า ร.ต.อ.พเยาว์สั่งเสียอะไรก่อนจากไปหรือไม่ นางอดาวัลย์กล่าวว่า พี่จ้อนไม่ได้สั่งเสียอะไรนอกจากเรื่องจัดงานศพ มีแต่รู้สึกเป็นห่วงตนว่าจะเลี้ยงดูลูก 2 คน คือ น้องรมน ลูกสาวคนโต ซึ่งขณะนี้เรียนอยู่ มศว ประสานมิตร ชั้นปีที่ 3 เอกการท่องเที่ยวและโรงแรม

กับน้องเพรียว ลูกชายคนเล็ก ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนวชิราวุธ ไหวหรือไม่ โดยเฉพาะน้องเพรียวนั้น พี่จ้อนรู้สึกเป็นห่วงมาก เพราะเคยพูดอยู่เสมอ ถ้าพ่อยังสบายดีอยู่ น้องเพรียวคงไปได้ไกลในกีฬารักบี้แน่ๆ

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ