แอร์ไลน์ยื่นคำขาดทักษิณ บอยคอตบินสุวรรณภูมิ

สายการบินผนึกกำลังหักดิบ "ทักษิณ" นกแอร์-บางกอกฯ-โอเรียนท์ฯ-พีบีแอร์-ไทย แอร์เอเชีย ประสานเสียง 15 ก.ย.ไม่บินสุวรรณภูมิ "พาที" ลั่นพร้อมแจงนายกฯทุกเรื่อง ระบุปัญหาความปลอดภัยสำคัญที่สุด เมินโปรโมชั่นลด-แถมค่าธรรมเนียมลงจอด ชี้ไม่คุ้ม กระทบผู้โดยสาร สหภาพการบินไทยผสมโรงต้านแหลก

ความพยายามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ประกาศออกมาล่วงหน้าแล้วว่า จะเลื่อนเปิดทำการบินภายในประเทศของสนามบินสุวรรณภูมิ จากเดิมวันที่ 28 กันยายน 2549 มาเป็นวันที่ 15 กันยายน 2549 ทั้งๆ ที่ยังมีประเด็นข้อถกเถียงในเรื่องของความพร้อม จากทั้งบริษัทการบินไทย สายการบินต้นทุนต่ำ หรือโลว์คอสต์แอร์ไลน์อีกหลายๆ สายการบิน รวมถึงการอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารในด้านต่างๆ นั้น กำลังเป็นหัวข้อสำคัญที่ธุรกิจสายการบินออกมาเคลื่อนไหวกันอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายว่าในการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) วันที่ 18 สิงหาคม 2549 จะต้องมีข้อสรุป

ทั้งนี้ท่าทีของผู้บริหารสายการบินต้นทุนต่ำ รวมไปถึงสายการบินนานาชาติหลายแห่งเริ่มปรากฏภาพที่ชัดเจนแล้วว่า ยังไม่พอใจในเรื่องของความพร้อมของสถานที่ ระบบการปฏิบัติงาน สิ่งอำนวยความสะดวกระบบสาธารณูปโภค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการที่เกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ทำให้ล่าสุดนอกจากผู้บริหาร "นกแอร์" จะกระโดดออกมาคัดค้านเต็มตัวแล้ว การประชุมของกลุ่มสายการบินภายในประเทศ เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2549 ที่ผ่านมาก็เตรียมข้อเรียกร้องไว้สำหรับยื่นเข้าที่ประชุม กทภ.ในวันที่ 18 ส.ค.2549 ด้วย

ดังนั้นวันที่ 15 ก.ย.2549 มีแนวโน้มว่าจะมีเฉพาะบางเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบินไทยเท่านั้นที่เริ่มให้บริการที่สุวรรณภูมิ เพราะปัญหาความไม่ลงตัวระหว่างสายการบินต่างๆ ยังมีอยู่มาก และส่งผลกระทบถึงยุทธ ศาสตร์ของการผลักดันให้สุวรรณภูมิเป็นศูนย์กลางการบินในอนาคตด้วย

นกแอร์ออกหน้าลุย

นายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แม้บริษัทการท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) หรือบริษัท การบิน ไทย จำกัด (มหาชน) จะออกมาขานรับการเลื่อนกำหนดเปิดเที่ยวบินภายในประเทศของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิมาเป็นวันที่ 15 ก.ย.2549 ตามความต้องการของรักษาการนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่สำหรับตนแล้วยืนยันว่า ในเมื่อยังไม่มีความพร้อมในหลายๆ เรื่อง สายการบินนกแอร์ก็จะไม่ยอมทำการบินเด็ดขาด พร้อมกันนี้ตนได้แสดงความจำนงผ่านไปยังนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไปแล้วว่า ในวันที่ 18 ส.ค. 2549 ซึ่งจะมีการประชุม กทภ. เพื่อสรุปความพร้อมอีกครั้งหนึ่งนั้น ตนพร้อมที่จะเข้าพบแล้วชี้แจงรายละเอียดให้ พ.ต.ท.ทักษิณรับฟังโดยตรง

"ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือเมื่อมีความไม่พร้อมทั้งแผนปฏิบัติการภาคพื้นดิน ระบบต่างๆ ที่จะรองรับ ซึ่งอาจมีผลถึงเรื่องความปลอดภัย การเร่งรีบเปิดใช้จะไม่ก่อให้เกิดผลดี หากมีอะไรเกิดขึ้นจะเป็นผลเสียหรือเป็นภาพลบต่อสนามบินสุวรรณภูมิและธุรกิจการบินทั้งระบบ เพราะในการทดลองบินก่อนหน้านี้เราก็ยังเห็นปัญหาความไม่พร้อมในหลายๆ เรื่อง ทั้งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน หอบังคับการบิน หรือการอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร" นายพาทีกล่าว

เมินโปรโมชั่นล่อใจ

นายพาทียังระบุด้วยว่า แม้จะมีความพยายามที่จะให้สิทธิพิเศษ หรือโปรโมชั่น โดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (ทอท.) พิจารณายกเว้นค่าบริการสนามบินต่างๆ เพื่อจูงใจให้สายการบินในประเทศเข้ามาใช้บริการ ระหว่างวันที่ 15-28 กันยายน หากสายการบินมาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิกี่เที่ยวก็ตาม จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมอีก 2 เท่า หลังจากที่มีการเปิดใช้สนามบินอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 28 กันยายนนี้ เช่น หากลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ 10 เที่ยว หลังจากนั้นจะได้จอดฟรีอีก 20 เที่ยว รวมทั้งได้รับการบริการน้ำมันราคาถูก และสิทธิประโยชน์อื่นๆ แต่สายการบินของตนและอีกหลายๆ สายการบินก็ยังมองไม่เห็นความคุ้มค่า หากจะทำให้เกิดผลกระทบกับลูกค้าหรือผู้โดยสาร

เนื่องจากความไม่พร้อมและปัญหาบางประการที่พบแล้วในระหว่างการทดลองปฏิบัติการนั่นคือ ระบบการลำเลียงกระเป๋ายังทำได้ค่อนข้างช้า ขนาดในวันทดสอบไม่มีจำนวนเที่ยวบินมากนัก ยังมีความขลุกขลักพอสมควร หากผู้โดยสารของนกแอร์ ต้องมาเสียเวลารอกระเป๋านานเป็นชั่วโมง แถมยังอาจเจอปัญหาในการขนย้ายผู้โดยสารออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเข้าเมืองโดยระบบรถบัสขนส่งของ ขสมก.ผสมเข้าไปอีก ผลกระทบที่เกิดขึ้นจะสร้างความไม่พอใจให้กับผู้โดยสารหรือลูกค้าของนกแอร์ หรือทุกๆ สายการบินแน่นอน

ทั้งนี้ยังไม่นับถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับกลุ่มผู้โดยสารต่างชาติที่เดินทางจากหัวเมืองกลับมากรุงเทพฯ เพื่อใช้บริการเชื่อมต่อสายการบินอื่นๆ ไปต่างประเทศอาจต้องเสียเวลามากขึ้น หรืออาจไปไม่ทันเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ตนไม่แน่ใจว่าหากเกิดปัญหาหรือความเสียหายกับผู้โดยสารในลักษณะนั้น จะมีผู้รับผิดชอบอย่างไร

เผยที่ตั้งออฟฟิศยังมั่ว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ กล่าวอีกว่า ประเด็นความไม่พร้อมที่ค้างคามาตลอดก็คือ การจัดสรรพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุป ทำให้สายการบินนกแอร์ รวมถึงสายการบินอื่นๆ ลำบากใจที่จะเข้ามาเริ่มปฏิบัติงานในสุวรรณภูมิ เพราะยังไม่มีที่ตั้งสำนักงาน หรือบางจุดที่จัดให้ก็ไม่สอดคล้องกับการปฏิบัติงาน อยู่ห่างไกลจากเส้นทางที่จะขึ้นเครื่องมาก จุดที่จะตั้งเคาน์เตอร์ การเชื่อมต่อระบบระหว่างเคาน์เตอร์กับออฟฟิศของสายการบินหรือพื้นที่ห้องรับรองพิเศษสำหรับผู้โดยสารก็ยังไม่มีความชัดเจน ระบบโทรศัพท์ การออนไลน์ หรือบริการอินเทอร์เน็ตก็ยังใช้บริการไม่ได้ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่แต่ละสายการบินจะรวบ รวมไปสะท้อนในการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมวันที่ 18 ส.ค.นี้

"ที่ต้องการจะอธิบาายกับนายกฯทักษิณคือ หลายๆ จุดมันไม่พร้อมจริงๆ เพราะตั้งแต่เริ่มต้นแบบของสนามบินก็ไม่ได้เตรียมที่จะรองรับสายการบินโลว์คอสต์ ขนาดที่ดอนเมืองมีตั้ง 2-3

เทอร์มินอล การจราจรยังวุ่นวายจะตาย ทีนี้มาสุวรรณภูมิออกแบบเป็นสนามบินที่ยาวมาก ทั้งเส้นทางระหว่างประเทศ ในประเทศ โลว์คอสต์มารวมกันหมด ผมยังไม่รู้ว่ามันจะทำยังไง แล้วยังมีรายละเอียดที่สายการบินต้องดูแลอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร จุดที่จะตั้งเคาน์เตอร์มันต้องเชื่อมระบบกับออฟฟิศ รองรับการบุ๊กกิ้ง สามารถเช็กติดตามเรื่องกระเป๋า เรื่องการจองแท็กซี่ จองรถบัสให้ผู้โดยสารได้ แต่ที่จะเปิดวันที่ 15 กันยายน แล้วการบินไทยจะบิน ผมก็คงทำหนังสือยืนยันไปว่าเราไม่พร้อม เราบินไม่ได้จริงๆ" นายพาทีกล่าว

มติสายการบินไม่ร่วม 15 ก.ย.

เรืออากาศโทอนิรุทธิ์ ถนอมกุลบุตร รอง ผู้อำนวยการท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) ในฐานะประธานคณะทำงานเจรจาสายการบินย้ายเที่ยวบินมายังสุวรรณภูมิ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อ 11 ส.ค.ที่ผ่านมาได้จัดประชุมหารือกับตัวแทน

ผู้บริหาร 6 สายการบินในประเทศ ได้ข้อสรุปว่า ขณะนี้การบินไทยเพียงสายเดียวที่พร้อมจะร่นวันย้ายเที่ยวบินในประเทศจาก 28 ก.ย.เป็น 15 ก.ย.นี้ 5 เที่ยว/วัน ส่วนอีก 5 สาย บางกอกแอร์เวย์ส นกแอร์ ไทย แอร์เอเชีย โอเรียนท์ไทย พีบีแอร์ ขอกลับไปตรวจสอบตารางเวลาและวิธีทำงานเพื่อมาประชุมร่วมกับ ทอท.อีกครั้ง 17 ส.ค.นี้ เพื่อนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (กทภ.) 18 ส.ค.นี้ โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธาน

บรรยากาศระหว่างการหารือร่วมกับสายการบิน ทอท.ได้นำความพร้อมการให้บริการสุวรรณ

ภูมิมานำเสนอให้ทุกสายการบินรับรู้อย่างถูกต้อง ตั้งแต่ระบบบริการ ระบบขนส่งทางบกนำรถปรับอากาศของ ขสมก.ที่จะลำเลียงผู้โดยสารออกจากสนามบินไปยังปลายทาง มีรายละเอียดเส้นทางระบุชัดเจน โดยรวมจะทำเช่นเดียวกับเมื่อ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทดลองบินตามตารางจริงไป 22 เที่ยว/วัน จำนวนผู้โดยสาร 4,500 คน

ย้ำพร้อมบินเร็วสุด 28 ก.ย.

ม.ร.ว.นันทิกา อรวรรณ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายเผยแพร่โฆษณา ประชาสัมพันธ์ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด เจ้าของบางกอก แอร์เวย์ส กล่าวว่า ที่ประชุมฝ่ายบริหารบริษัทมีมติเมื่อ 10 ส.ค.ให้ย้ายฐานเที่ยวบินทั้งหมดจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ วันที่ 28 ก.ย.นี้เท่านั้น ส่วนรัฐบาลขอความร่วมมือเลื่อนการย้ายวันให้เร็ว บางกอกแอร์เวย์สไม่สามารถทำได้ เพราะเที่ยวบินกว่า 80% มีเวลาเชื่อมต่อตารางบินไปยังต่างประเทศ และ

ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ประเมินแล้วหากย้ายบางเที่ยวไปยังสุวรรณภูมิจะเป็นปัญหาอย่างมาก หากผู้โดยสารต้องนั่งรถบัสฝ่าจราจรไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง อาจจะทำให้พลาดเที่ยวบินที่ซื้อไว้

"บางกอกแอร์เวย์สเตรียมตารางเวลาแผนปฏิบัติการย้ายวันที่ 28 ก.ย.เป็นวันแรก จ้างบริษัทที่เชี่ยวชาญเข้ามาทำทั้ง อุปกรณ์การบิน ฝูงบิน พนักงาน ทันทีที่เปิดใช้ในเชิงพาณิชย์ก็จะทำงานได้เลย"

กัปตันโยธิน ภมรมนตรี รองประธานพีบีแอร์ กล่าวว่า สายการบินในประเทศส่วนใหญ่แสดงความพร้อมให้ความร่วมมือในการย้ายไปวันที่ 28 ก.ย.มากกว่า พีบีแอร์ก็เช่นกัน การเลื่อนให้เร็วขึ้นวันที่ 15 ก.ย.ต้องยอมรับฝูงบินเรามีเครื่องจำนวนไม่มาก และเที่ยวบินส่วนใหญ่ต้องใช้เครื่องบินต่อไปดานัง เวียดนาม

ก่อนหน้านี้นายทัศพล แบแลเวลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย แอร์เอเชีย จำกัด ก็ออกมายืนยันเช่นกันว่า ในวันที่ 15 กันยายนนี้บริษัทคงไม่สามารถเปิดให้บริการเส้นทางบินในประเทศได้ เนื่องจากไม่สามารถเตรียมการได้ทัน โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างจัดตั้งสำนักงานที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งคาดว่าจะเปิดทำการบินได้ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ถึงแม้บริษัทไม่สามารถเปิดเส้นทางบินได้ภายในวันที่ 15 กันยายนก็คงไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด โดยท่าอากาศยานระบุว่า ใครที่พร้อมก่อนก็สามารถบินได้ก่อน

สหภาพบินไทยผสมโรงค้าน

สำหรับความเคลื่อนไหวของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หลังจากคณะกรรมการบริษัทและฝ่ายบริหารออกมายืนยันว่า ในวันที่ 15 ก.ย.2549 นี้จะเปิดให้บริการเส้นทางบิน 3 เส้นทางคือ เชียงใหม่ พิษณุโลก และอุบลราชธานี โดยใช้สนามบินสุวรรณภูมิเพื่อทดสอบระบบต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบนั้น ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยทำหนังสือคัดค้านการเปิดบริการการบินในวันที่ 15 ก.ย. 2549 อย่างเป็นทางการ โดยให้เหตุผลว่า พนักงานการบินไทยในนามสหภาพแรงงานฯเห็นว่ายังไม่มีความพร้อม ความชำนาญในการใช้สนามบิน การขนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ ก็ยังดำเนินการไม่เสร็จ หากมีปัญหาจะเกิดผลกระทบในระยะยาว จึงไม่เห็นด้วยที่จะเร่งเปิดตามที่รัฐบาลเร่งรัดมา