ตัดไตขวาครูพยงค์ รักษามะเร็ง อาการโดยรวมดีขึ้น

"พยงค์ มุกดา" อดีตนักร้องและครูเพลงชื่อดัง ศิลปินแห่งชาติวัย 84 ปี ป่วยเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ แพทย์เล็งตัดไตด้านขวาและท่อปัสสาวะด้านขวา หวังช่วยกระตุ้นไตซ้ายให้ทำงานได้

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (25 พ.ค.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารสำนักงานผู้อำนวยการ รพ.รามาฯ ศ.นพ.กฤษฏา รัตนโอฬาร หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ พร้อมด้วย นพ.กิตติณัฐ กิจวิภัย แพทย์เจ้าของไข้  แถลงถึงอาการป่วยของ "พยงค์ มุกดา" ศิลปินแห่งชาติว่า หลังเข้ามารักษาตัวตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการปัสสาวะเป็นเลือด ซึ่งแพทย์ได้ส่องกล้องเข้าไปตรวจในกระเพาะปัสสาวะพบ เนื้องอกอยู่ที่ทางเดินปัสสาวะด้านขวา มีขนาดประมาณ 2-4 เซนติเมตร แพทย์ได้วางแผนว่าจะผ่าตัด แต่ขณะนั้นคนไข้มีร่างกายที่ไม่ดี โดยเฉพาะไตตรวจพบ ไตด้านขวาบวมมาก และไตข้างซ้ายไม่ค่อยดีเท่าใดนัก จึงไม่สามารถผ่าตัดให้ได้

ศ.นพ.กฤษฏา และ นพ.กิตติณัฐ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังพบว่า ไตของคนไข้ไม่สามารถขับของเสียออกจากร่างกายได้ แพทย์ได้เจาะช่องท้องระบายน้ำปัสสวะออกและขูดก้อนเนื้อที่พบนำไปตรวจสอบ ปรากฏว่า เป็นมะเร็งในระยะเริ่มต้น จนถึงขณะนี้คนไข้เริ่มมีอาการดีขึ้นแข็งแรงขึ้นแพทย์ได้วางแผนการรักษาโดยจะตัดไตด้านขวาและท่อปัสสาวะด้านขวาที่พบก้อนเนื้อออกไป โดยจะใช้วิธีผ่าตัดโดยกล้องส่องเข้าไป ซึ่งจะใช้ทีมแพทย์ผู้เชียวชาญ เหตุที่ต้องใช้วิธีดังกล่าว เนื่องจากคนไข้อายุมากแล้ว และการผ่าตัดโดยวิธีนี้จะทำให้เสียเลือดน้อยและมีบาดแผลที่เล็ก ที่สำคัญคนไข้สามารถฟื้นตัวได้เร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถูกตัดไตออกไปจะมีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง นพ.กิตติณัฐ กล่าวว่า ข้างซ้ายก็ยังทำงานได้ แต่กรณีนี้ข้างช้ายทำงานไม่ดี เมื่อตัดข้างขวาออกไปแล้ว มองในแง่ดีอาจจะไปกระตุ้นให้ไตซ้ายทำงานได้ดีก็เป็นไปได้ แต่หากด้านซ้ายทำงานไม่ได้ คนไข้จะต้องใช้วิธีฟอกไตแทน แต่ยังสามารถร้องเพลงและแต่งเพลงได้เป็นปกติ โดยหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในวันที่ 27 พ.ค.นี้แพทย์จะลงมือผ่าได้

สำหรับอาการศิลปินแห่งชาติซึ่งนอนอยู่บนเตียงมีสีหน้าสดชื่นแต่ยังคงมีอาการหลงลืมบ้างแพทย์ยังคงให้น้ำเกลืออยู่ พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงผ่าเบาว่า อาการตอนนี้ดีขึ้น ไม่เจ็บ กินอาหารได้ อยากฝากบอกแฟนเพลงว่า ขอบคุณมาก ขอให้ระมัดระวังตัวเองให้ดีดโดยเฉพาะสุขภาพ 

ขณะที่นางลำดวน มุกดา หลานซึ่งคอยดูแลอย่างใกล้ชิด กล่าวว่า ครูสามารถกินข้าวได้มาก แต่ยังคงมีอาการหลงๆ ลืมอยู่เป็นบางครั้ง แต่ยังไม่ทราบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง รู้เพียงว่าจะต้องผ่าตัดเท่านั้น