แม่ทัพภาค 2 เผยเอกชนและประชาชนเสนอลงขันสร้างประสาทเขาพระวิหารของไทย เพื่อรักษาอธิปไตย เป็นวัฒนธรรมของไทยที่ทำขึ้นในยุคนี้ ให้ใหญ่บดบังของเขมร พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งทองเที่ยวใหม่
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ "ลับ ลวง พราง" ทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม 100.5 ถึงกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางไปตรวจเยี่ยมกำลังพลที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหารเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า การที่ท่านเดินทางไปตรวจเยี่ยมครั้งนี้ ทำให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจมาก ในการตรวจเยี่ยมครั้งนี้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกัมพูชาลงมาต้อนรับด้วยจึงเชิญท่านขึ้นไปที่วัดและลงมาทางปราสาทเขาพระวิหารด้านบันไดหน้า ซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ดีขึ้น และจะส่งผลต่อการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ ที่เตรียมจะเปิดให้ขึ้นไปบนผามออีแดงในเร็วๆ นี้ แต่ถ้าเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นมา เราก็จะระงับการขึ้นชม
พล.ท.วิบูลศักดิ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องตลาดที่เกิดเสียหาย และทางกัมพูชาเรียกร้องค่าเสียหายนั้น คงเป็นในเรื่องระดับนโยบาย ส่วนกำลังทหารของทั้งสองฝ่ายที่ยังอยู่เผชิญหน้ากันนั้น ทาง ผบ.ทบ.ให้มีการป้องกันที่ตั้ง ป้องกันตนเอง และพัฒนาสัมพันธ์กันเพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ฝ่ายผู้บังคับบัญชาทุกระดับจึงต้องกำกับดูแล และเพิ่มความเข้มงวด รวมถึงสานสัมพันธ์เล่นกีฬากัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่า ประชาชนในพื้นที่อยากให้มีการสร้างปราสาทเขาพระวิหารของเราเอง พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์กล่าวว่า เคยมีภาคเอกชนมาเสนอเมื่อไม่นานมานี้ว่า เราน่าจะสร้างปราสาทเขาพระวิหารในแผ่นดินของเราเองด้านผามออีแดงจะได้ไม่สนใจของเขา เพราะถนนเราก็ดีอยู่แล้ว แต่พื้นที่ค่อนข้างมีอยู่ค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม หากคิดจะทำก็สามารถทำได้
ทั้งนี้ ภาคเอกชนและประชาชนจะร่วมกันลงขันสร้างปราสาทขึ้น เพื่อรักษาอธิปไตย และเป็นวัฒนธรรมของไทยที่ทำขึ้นในยุคนี้ โดยจะใช้บริเวณมออีแดงทั้งหมดประมาณ 100 ไร่ขึ้นไป ซึ่งเขาเสนอว่า จะสร้างให้ใหญ่จนบังปราสาทเขาพระวิหาร โดยจะมีการสร้างคอนโดมิเนียมขึ้นมา และใช้พื้นที่ของเราเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่เลย อย่างไรก็ตาม คงจะต้องมีการเสนอรัฐบาล และกระทรวง หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แนวคิดนี้แสดงให้เห็นถึงความรักชาติ รักแผ่นดินของคนไทยที่อยากจะแก้ปัญหาตรงนี้
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ขณะนี้ทางกัมพูชาสร้างบันไดทางขึ้นปราสาทในพื้นที่ของเขา แต่เมื่อเขาสร้างมาถึงพื้นที่อ้างสิทธิ เราจึงขอให้เขาหยุดการก่อสร้าง ในช่วงแรกเกิดปัญหาเพราะเขาไม่หยุด จึงต้องมีทหารของเราตรึงกำลังในพื้นที่อย่างเคร่งเครียดจนเขาหยุดใช้ถนน ซึ่งบางทีนักท่องเที่ยวขึ้นมาจากทางฝั่งกัมพูชา แต่ถ้าเขาเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนคงจะต้องขออนุญาตและมาตกลงกัน อย่างกรณีเจ้าหน้าที่ของยูเนสโกที่จะเข้ามาก็ต้องขออนุญาตทางเราเช่นกัน ซึ่งปัญหาตรงนี้หากตกลงกันได้การพัฒนาปราสาทของเขาน่าจะดีขึ้น เพียงแต่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งการจะเข้าจะออกหรือจะทำอะไรต้องชัดเจน ดังนั้น เมื่อมีอะไรครั้งหนึ่งจึงต้องมาตกลงกัน
เมื่อถามว่า ขณะนี้สภาพข้างบนปราสาทเขาพระวิหารเป็นอย่างไร พล.อ.วิบูลย์ศักดิ์กล่าวว่า มีกำลังทหารที่มีอาวุธอยู่บริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งมีการวางกำลังค่อนข้างหนาแน่น ทั้งนี้ เขามักจะยิงจากบนปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเราก็มีสิทธิยิงโต้ตอบ แต่ความจริงถ้าปราสาทเป็นมรดกโลกจะต้องไม่มีกำลังทหาร และอาวุธอยู่บริเวณปราสาท ถือเป็นหลักฐานหนึ่งว่า เขาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
