เต่าตนุวางไข่ทับสะแก มีนับร้อยใบ ครั้งแรกที่พบฝั่งอ่าวไทย

เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (4 พ.ค.) น.ส.สุรีรัตน์ แต้ชูตระกูล แกนนำกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทับสะแก ร่วมกับชาวบ้าน

ช่วยเหลือลูกเต่าตนุที่เพิ่งออกจากไข่ ที่บริเวณชายหาดทะเลหมู่บ้านแหลมกุ่ม หมู่ที่ 7 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่ผ่านมามีคนพบเห็นว่าลูกเต่าตายไปแล้วหลายตัว โดยได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอน กลาง จ.ชุมพร

นายอติชาติ อินท์ทองคำ นักวิชาการประมงผู้ชำนาญการรับผิดชอบโครงการสัตว์ทะเลหายากจากศูนย์วิจัย ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร

ซึ่งได้รับแจ้งให้มาร่วมสำรวจพื้นที่พบแหล่งวางไข่ของเต่าทะเล ได้ขุดหลุมในจุดที่ชาวบ้านระบุว่าเจอลูกเต่าลงไปประมาณ 80 เซนติเมตร พบลูกเต่าตนุที่ออกจากไข่กำลังแหวกทรายขึ้นมาพอดี 8 ตัว พบซากเปลือกไข่เต่ามีร่องรอยการแตกตัวไปแล้วจำนวน 118 ฟอง และพบไข่เต่าที่ไม่สมบูรณ์ อีก 10 ฟอง จึงเก็บไปเพื่อศึกษาวิจัย

นายอติ ชาติ กล่าวว่า เป็นการบันทึกครั้งแรกของประเทศไทย ในการพบเจอแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลบริเวณหาดทรายชายฝั่งของอ่าวไทย ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึงก้นอ่าวไทย

ปกติเต่าตนุจะวางไข่เพียง 2 พื้นที่ คือ ที่เกาะครามจ.ชลบุรี และเกาะกระ จ.นครศรีธรรมราช เต่าตนุจะใช้พื้นที่ชายหาดที่สงบปราศจากการรบกวนของมนุษย์ พื้นที่ไหนที่เต่าตนุวางไข่เมื่อถึงรุ่นลูก ก็จะกลับมาวางไข่ซ้ำในพื้นที่เดิม ซึ่งเต่าตนุจะวางไข่ได้หลายชุด เว้นระยะประมาณ 7-10 วันต่อ 1ชุด เมื่อโตเต็มที่ วัดขนาดกระดองได้ 90-100 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 110-180 กิโลกรัม บริเวณพายมีเล็บแหลมกระดองเป็นเกล็ดเรียงกันมีสีน้ำตาลโอลีฟ หรือสีดำส่วนใต้ท้องกระดองมีสีเหลืองหรือสีครีมอ่อน

สำหรับเต่าตะนุ เป็นเต่าทะเล กระดองแข็งที่มีขนาดใหญ่ที่สุด กินพืชเป็นอาหารโดยเฉพาะพวกสาหร่าย หรือหญ้าทะเล ถือเป็นสัตว์สงวนและคุ้มครองและอยู่ในบัญชีอนุสัญญาไซ เตสบัญชีที่ 1 ซึ่งถือว่าใกล้สูญพันธุ์