วานนี้ (2 เม.ย.) นายจักรพงษ์ แก้วขาว หัวหน่วยวิจัยแก้วและวัสดุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม
ในฐานะหัวหน้า โครงการวิจัยเรื่อง “การเตรียมนิลเทียมจากขี้เถ้าแกลบเหลือใช้” กล่าวว่า ขณะนี้ต้องยอมรับว่าอัญมณีในประเทศไทยเริ่มจะหมดไป และต้องนำเข้าจากประเทศแถบทวีปแอฟฟริกา และพม่า ดังนั้นทางทีมวิจัยจึงทดลองนำขี้เถ้าแกลบ ซึ่งพบว่ามีสารซิลิกา ที่เป็นสารหลักในการผลิตแก้วอยู่ในปริมาณมาก มาทดลองโดยนำมาผสมกับสารเคมี ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางโครงการวิจัย จากนั้นนำไปหลอมจนเป็นของเหลว จนรอให้แข็งตัว ก่อนที่จะนำไปอบ และพบว่าเมื่อนำไปเจียระไนจะมีความสวยงามในระดับเดียวกับอัญมณีต่างๆ ทั้งยังสามารถควบคุมสี และน้ำหนักได้ ซึ่งเป็นข้อดีกว่าอัญมณีที่เกิดมาจากธรรมชาติ ที่จะไม่สามารถควบคุมได้ ขณะเดียวกันทีมวิจัยยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาต่อยอดโดยการนำขี้เถ้าแกลบ มาทำเป็นอัญมณีที่มีความทึบแสงอย่างเช่น นิล ได้แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นรายแรกของประเทศไทย
หัวหน่วยวิจัยแก้วและวัสดุศาสตร์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีภาคเอกชนมาติดต่อมาทางทีมวิจัยเพื่อนำอัญมณีเทียมของทางโครงการไปทำ เครื่องประดับออกจำหน่ายแล้ว
ทั้งนี้จากการที่ทีมวิจัยทดลองนำไปเจียระไนแล้วทำเป็นแหวน สร้อย ออกจำหน่าย พบว่าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างมาก เพราะต้นทุนในการทำอัญมณีเทียมอยู่ที่ประมาณ 200-300 บาท ต่อ 1 ก้อน แต่เมื่อนำไปเจียระไนทำเป็นเครื่องประดับชนิดต่างๆแล้วจะสามารถจำหน่ายได้ใน ราคาสูงถึง1,000-2,000 บาท