ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (11 มีนาคม) ผศ.ชวลิต ขาวเขียว รองหัวหน้าภาควิชา โบราณคดี ม.ศิลปากร นำคณะนักโบราณคดี เดินทางไปที่บริเวณปากถ้ำเชิงเขาจุฬา
หมู่ที่ 1 บ้านกลาง ต.เขาทะลุ อ.สวี จ.ชุมพร หลังรับแจ้งว่าพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณ และลูกปัดจำนวนมาก เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้กันบริเวณเพื่อทำการขุดสำรวจ จากการขุดสำรวจจุดแรกที่บริเวณปากถ้ำดังกล่าว โดยขุดเป็นหลุมกว้าง 3 เมตร ลึก 1 เมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ ซึ่งโครงกระดูกที่พบอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ลักษณะนอนหงาย หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ส่วนแขนทั้ง 2 ข้างขนาบอยู่ข้างลำตัว ขาเหยียดตรง คล้ายกับถูกฝังโดยผ่านพิธิกรรมตามความเชื่อในยุคสมัยโบราณ จากการวัดโครงกระดูกตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงปลายเท้า มีความยาวถึง 198 ซม. นอกจากนั้นในบริเวณปากถ้ำ และในถ้ำเขาจุฬายังพบลูกปัด กำไล เครื่องประดับต่างๆ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ อีกจำนวนมาก มีสภาพ สวยงาม สมบูรณ์
ผศ.ชวลิต ขาวเขียว รองหัวหน้าภาควิชา โบราณคดี ม.ศิลปากร กล่าวว่าโครงกระดูกที่ขุดพบ ถ้าสังเกต ในหลุมที่พบโครงการดูกจะไม่มีทรัพย์สินของมีค่าใดๆ นอกจากลูกปัด และสิ่งของเครื่องใช้ในการดำรงชีพ
แสดงว่าน่าจะเป็นมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์ จากลักษณะที่พบคาดว่าน่าจะมีอายุ มากกว่า 5 พันปี เนื่องจากโครงกระดูกมนุษย์ดังกล่าวเป็นเพศชายมีรูปร่างสูงใหญ่ ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าถ้ำดังกล่าว คงเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวมนุษย์ในยุคสมัยนั้น เมื่อเสียชีวิตลงญาติๆ จึงได้ประกอบพิธีฝังศพที่บริเวณหน้าถ้ำเชิงเขา เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของสถานที่ อีกทั้งสภาพโครงกระดูกถูกจัดนอนอย่างเป็นระเบียบ แสดงถึงผ่านพิธิกรรมในการฝังศพด้วย