นายกฯ ควง รมว.คลังเยี่ยมตลาดหุ้นไทย
ชี้ปัญหาดัชนีและมูลค่าทรุดหนัก มองต้องเชื่อมตลาดเกษตรล่วงหน้าและโภคภัณฑ์เข้าด้วยกัน เร่งลบภาพแหล่งหาผลประโยชน์ เอาเปรียบรายย่อย พร้อมเตรียมหารือ ธปท.สัปดาห์นี้ วางแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้สอดคล้องกัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
เปิดเผยภายหลังการหารือกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อรับฟังปัญหาและแนวทางแก้ปัญหา รวมถึงหารือนโยบายในการพัฒนาตลาดทุนในระยะยาว ว่าตลาดทุนมีความสำคัญ ทั้งด้านเป็นตัวชี้วัดความเชื่อมั่นและเศรษฐกิจ อีกทั้งมีความสำคัญในการเป็นแหล่งระดมทุน ซึ่งจากการหารือพบว่าปัญหาของตลาดหลักทรัพย์คือ ดัชนีและมูลค่าตลาดรวมปรับตัวลดลงมาก
"การแก้ไขปัญหา จำเป็นต้องมีคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนมาพัฒนาตลาดทุนไทยให้มีความแข็งแกร่ง และควรเชื่อมโยงตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าและตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เข้าด้วยกัน เพื่อให้ตลาดทุนไทยน่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ควรมีคุณสมบัติด้านความโปร่งใส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะต้องช่วยกันลบคำครหากรณี ต่อคำกล่าวว่า ใช้ตลาดหลักทรัพย์เป็นเครื่องมือในการหาผลประโยชน์ ซึ่งในแง่การล้างภาพลักษณ์เรื่องเป็นแหล่งหาผลประโยชน์ และเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยนั้น จะต้องหาวิธีอีกครั้งหนึ่ง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า
นายกฯ อยากให้มีความมั่นใจเรื่องความโปร่งใสในการทำงาน และไม่ถูกแทรกแซงจากภาครัฐ และพร้อมจะเปิดรับข้อมูลที่ตลาดหลักทรัพย์ต้องการให้พัฒนาและแก้ปัญหา เชื่อว่าการร่วมหารือกันในครั้งนี้ทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดทุนมีมากขึ้น และตลาดหลักทรัพย์คงต้องทำงานร่วมกับกระทรวงการคลังอีกหลายครั้งเพื่อพัฒนาตลาดทุนต่อไป
ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า
ภายในสัปดาห์นี้นายกรัฐมนตรี และทีมเศรษฐกิจ จะเดินทางไปหารือร่วมกับนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้สอดคล้องกัน ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีแนวทางเรื่องนโยบายด้านการเงินที่ชัดเจนจนกว่าจะได้หารือกับผู้ว่าการ ธปท. ให้เรียบร้อยก่อน อย่างไรก็ตาม การที่ ธปท.ได้ลดดอกเบี้ยลงแรง แสดงให้เห็นว่าแนวคิดเชิงวิเคราะห์ปัญหาเศรษฐกิจของ ธปท.สอดคล้องกับของรัฐบาล
ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไว้แล้ว ซึ่งมั่นใจว่าจะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้ เพราะรัฐบาลเข้าใจปัญหาของผู้ประกอบการและทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ซึ่งปัญหาลึกและกว้างมาก เห็นได้จากตัวเลขส่งออกเดือนพฤศจิกายนที่ติดลบมาก
ขณะที่การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอย่างหนัก ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค และผวาตัวเลขส่งออกเดือนพฤศจิกายนที่ออกมาต่ำสุดในรอบ 5 ปี ดัชนีปรับลดลงมาปิดตลาดที่ 434.08 จุด ลดลง 12.39 จุด มูลค่าการซื้อขาย 8,346.71 ล้านบาท
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
