นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
กล่าวเมื่อวันที่ 18 พ.ย. ว่า กระทรวงการคลังจะกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 35,000 ล้านบาท จากธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) ภายใต้แผนก่อหนี้จากต่างประเทศ เพื่อนำเงินมาใช้ในโครงการเร่งด่วนตามนโยบายรัฐบาลที่มีความพร้อมในการดำเนินงาน และจำเป็นต้องลงทุนเป็นเงินตราต่างประเทศ 13 โครงการ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า คาดว่าจะได้รับเงินกู้ดังกล่าวต้นเดือนม.ค.2552
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวต่อว่า หากเอดีบีไม่พร้อมปล่อยเงินกู้ หรือล่าช้า จะกู้จากธนาคารโลกทั้งหมด
ระยะเวลากู้เงิน 15-24 ปี ระยะเวลาปลอดหนี้ 3-6 ปี จะนำมาใช้ในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) 6 โครงการ อาทิ รถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน โครงการก่อสร้างรถไฟรางคู่ มีระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 2552-2556 แต่เงินกู้ดังกล่าวจะกระจายในโครงการที่พร้อมดำเนินการภายในปี 2552 ทั้งหมด ไม่รวมอยู่ในวงเงินเมกะโปรเจกต์ที่วางไว้แล้ว 350,000 ล้านบาท และทั้ง 13 โครงการดังกล่าว หากไม่พร้อม ก็จะพิจารณาจัดสรรให้โครงการอื่นแทนก่อน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวต่ออีกว่า เมื่อจ่ายเงินดังกล่าวเข้าสู่ระบบไปแล้วจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ระบบเศรษฐกิจ
เพื่อรองรับปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลก และภาคการส่งออกที่คาดว่าจะชะลอตัวลง โดยโครงการเหล่านี้ต้องสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ มีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมสูง และผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว
รายงานระบุว่า 13 โครงการที่คาดว่าจะได้รับเงินดังกล่าวไปดำเนินการในปี 2552 คือ โครงการของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ม.) 2 โครงการ
คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียมเข้มช่วง หมอชิต-สะพานใหม่ สายสีเขียวอ่อน ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) 3 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างทางคู่ช่วงฉะเชิงเทรา-แก่งคอย โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 5 ช่วงแก่งคอย-บัวใหญ่ โครงการปรับปรุงทางระยะที่ 6 ช่วงชุมทางบัวใหญ่-หนองคาย กรมชลประทาน 3 โครงการคือ โครงการพัฒนาลุ่มน้ำตาปี-พุมดวง โครงการผันน้ำจันทบุรี-ระยอง โครงการผันน้ำเจ้าพระยา-ชลบุรี กระทรวงสาธารณสุข 4 โครงการ คือ primary health center, secondary hospitals, tertiary hospitals, excellent center และกระทรวงศึกษาธิการ 1 โครงการคือ โครงการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียน การสอนด้วยระบบทางไกลผ่านดาวเทียม แต่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ โดยคาดว่าอีก 1 เดือนจึงจะทราบรายละเอียดที่ชัดเจน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
