ประชาชนร่วมส่งเสด็จ พระพี่นาง สู่สวรรคาลัย

ปชช.นับหมื่นแห่จองพื้นที่รอบสถานที่จัดงานพระราชพิธี แม่เฒ่าวัย 72 ลั่นขอเคารพ "พระพี่นาง" ครั้งสุดท้าย


ในหลวงเสด็จฯทรงประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ชาวบ้านนับหมื่นแห่จองพื้นที่โดยรอบสถานที่จัดงานพระราชพิธี นอนค้างคืนเพื่อจะได้ร่วมงานในเช้าวันที่ 15 พ.ย. แม่เฒ่าวัย 72 ขอเคารพครั้งสุดท้าย หากไม่มาครั้งนี้ชั่วชีวิตอาจไม่มีโอกาส บ้างซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณจะระลึกถึงพระองค์ตลอดไป

 
ในหลวงเสด็จออกพระเมรุ

เมื่อเวลา 17.58 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวังเพื่อทรงประกอบพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ
เมื่อเสด็จฯถึงทรงขึ้นทางบันไดมุขกระสันพระที่นั่งพิมานรัตยา (โดยลิฟต์) จากนั้นเสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผ่านพระบรมวงศานุวงศ์ที่เฝ้าฯไปยังที่ประดิษฐานพระศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะ และเครื่องทองน้อยสักการะพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชาวพนักงานประโคม สังข์ แตรงอน แตรฝรั่ง ปี่ และกลองชนะ ทหารกองเกียรติยศพระศพถวายความเคารพ

จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่หน้าพระแท่นราชบัลลังก์นพปฎลมหาเศวตฉัตรแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ถวายพัดรองที่ระลึกงานออกพระเมรุพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์แด่สมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา และพระราชาคณะสวดศราทธพรต 30 รูป พระสงฆ์ที่จะสดัปกรณ์ 84 รูป เท่าพระชันษา บรรพชิตจีนและญวน 20 รูป

ถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์-พระสวด

ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนากัณฑ์ 1 แล้ว พระสงฆ์ 30 รูป สวดศราทธพรตจบ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตร ถวายพระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา แล้วเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ 84 รูป ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ สวดมาติกาจบ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารทรงทอดผ้าไตร ย่ามที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงพระศพ บรรพชิตจีนและญวนสดัปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกที่แท่นมณฑลสวดพระอภิธรรม พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมจนถึงเวลา 24 นาฬิการุ่งขึ้น เสด็จพระราชดำเนินกลับ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี

เมื่อเสด็จฯยังด้านในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชดำเนินด้วยพระองค์เอง พระองค์พระราชดำเนินยังหน้าที่ประดิษฐานพระศพ ทรงก้มลงกราบพระโสทรเชษภคนีอย่างช้าๆ ด้วยพระพักตร์สงบ หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงปฏิบัติพระราชพิธีแทนพระองค์

ทรงให้จัดทำเครื่องสังเค็ดถวาย
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดทำเครื่องสังเค็ดถวายพระอารามหลวง 30 พระอาราม ในงานพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่เจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งประกอบด้วยตู้สังเค็ดบรรจุหนังสือสารานุกรมสำหรับเยาวชน และหนังสืออื่นๆ ทั้งหมด 48 เล่ม จำนวน 30 ชุด เป็นตู้ไม้สี่เหลี่ยมทาสีน้ำตาลแดง ขอบตู้ด้านล่างส่วนที่ติดกับขาตู้ประดับไม้แกะสลักลายปิดทอง ตัวตู้สังเค็ดเปิดด้านหน้าบานกระจก 2 บาน ผนังตู้แต่ละด้านกรุกระจกใส หน้ากระดานประดับพระนามย่อ กว. รูปหยดน้ำ
 
สำหรับวัดที่ได้รับพระราชทานเครื่องสังเค็ด คือ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม วัดเทพศิรินทราวาส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดสุทัศนเทพวราราม วัดราชาธิวาส วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม วัดราชบพิธสถิตสีมาราม วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วัดมกุฎกษัตริยาราม วัดราชโอรสาราม วัดนิเวศธรรมประวัติ วัดสุวรรณดาราราม จ.พระนครศรีอยุธยา
 
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม วัดสระเกศ วัดอนงคาราม วัดพิชัยญาติ วัดปทุมวนาราม วัดชนะสงคราม วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ วัดสัมพันธวงศ์ วัดสุวรรณาราม วัดโพธิ์แมน (วัดจีน) วัดบางไส้ไก่ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ จ.นครสวรรค์ วัดตำหนักใต้ วัดแคนอก จ.นนทบุรี

ถวายพัดรองที่ระลึก-ย่าม-ผ้ากราบ
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายพัดรองที่ระลึก ย่าม และผ้ากราบ เป็นของที่ระลึกแด่พระสงฆ์ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งวันที่ 14 พฤศจิกายน ในงานพระราชกุศลออกพระเมรุ ถวายพัดรองที่ระลึก ย่าม และผ้ากราบ เป็นสีดำ ทั้งสิ้น 143 ชุด นอกจากนี้ยังจัดถวายพระพิธีธรรมอีก 10 วัด ส่วนวันที่ 17 พฤศจิกายน ในงานพระราชกุศลพระอัฐิ ถวายพัดรองที่ระลึก ย่าม และผ้ากราบ โดยทั้งชุดเป็นสีแดง ทั้งสิ้น 45 ชุด
 
สำหรับลวดลายบนพัดรอง ย่าม และผ้ากราบ ประกอบด้วย "ตราประจำพระองค์" พิมพ์เป็นพระนามย่อ กว. ภายใต้พระเกี้ยว หมายถึง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ "พระสัปตปฎลเศวตฉัตร" หมายถึง พระอิสริยยศที่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ได้รับพระราชทาน "สายสร้อยห้อยดวงตรามหาจักรี" หมายถึง สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เป็นพระบรมวงศ์ในมหาจักรีบรมราชวงศ์ "ฉัตร 5 ชั้น" เป็นเครื่องประกอบพระราชอิสริยยศ

ถวายภัตตาหารสามหาบ
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายภัตตาหารสามหาบสำหรับประเคนประสงฆ์ 1 ชุด ประกอบด้วย โตกใหญ่เครื่องคาว ประกอบด้วย ชามขนาด 5 นิ้ว  6 ใบ ชามขนาด4 นิ้ว 1 ใบ ช้อนส้อม 1 คู่ และช้อนกลาง 1 อัน , โตกกลางเครื่องหวาน ประกอบด้วย ชามขนาด 5 นิ้ว 5 ใบ โถเจียระไนขนาด 2.7 นิ้ว  1 ใบ ช้อนส้อม 1 คู่ และช้อนกลาง 1 อัน , โตกเล็ก ประกอบด้วย ชามขนาด 8 นิ้ว 1 ใบ สำหรับลักษณะของโถ ชาม และฝา ที่วางอยู่บนโตกเป็นสีน้ำเงิน ด้านบนของฝา และด้านข้างของชามพิมพ์ลายพระนามย่อ กว. สีทอง ส่วนโตกเป็นสีดำ กึ่งกลางโตกพิมพ์ลายพระนามย่อ กว. เช่นกัน  ซึ่งวัดที่นิมนต์รับภัตตาหารสามหาบ คือ วัดสระเกศ วัดชนะสงคราม วัดบวรนิเวศวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม

นับหมื่นจองพท.รับเสด็จ-ร่วมงาน
 
ส่วนบริเวณพื้นที่รอบๆที่จัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ปรากฏว่ามีประชาชนจำนวนนับหมื่นคนทยอยมาเฝ้ารับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเตรียมจับจองพื้นที่เพื่อดูริ้วขบวนแห่พระศพซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน โดยประชาชนจำนวนมากได้เข้าไปจับจองพื้นที่ตั้งแต่ด้านหน้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เรื่อยไปถนนหับเผย ไปถึงบริเวณด้านหน้าวังสราญรมย์  อีกด้านหนึ่งตั้งแต่สนามหลวง ที่หน้าศาลหลักเมือง และสองข้างทางถนนราชดำเนิน รวมไปถึงบริเวณหน้าโรงละครแห่งชาติ
 
ประชาชนที่มาจับจองพื้นที่ส่วนมากเป็นประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด อาทิ จ.อุดรธานี ขอนแก่น จ.สกลนคร เป็นต้น โดยนำกระเป๋าเสื้อผ้า และ เสื่อปูนอน หมอน ติดตัวมาด้วย ที่ขาดไม่ได้คือยาทากันยุง ต่างตั้งใจจะนอนค้างคืนเพื่อจะได้ร่วมงานในเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน

แม่เฒ่า72ขอเคารพศพครั้งสุดท้าย
 
นางวิน เคารพ อายุ 72 ปี และนางอิม จันทา อายุ 68 ปี เดินทางมากับนางดี คำนึก อายุ 60 ปี ให้สัมภาษณ์ว่าทั้ง 3 เป็นชาวบ้านมาจาก จ.ศรีสะเกษ ตั้งใจมาร่วมพิธีพระราชทานเพลิงพระศพให้ได้ ก่อนหน้านี้เคยมากราบพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯแล้ว แต่ก็อยากมางานพระราชทานเพลิงพระศพด้วย ช่วงนี้เป็นช่วงทำนาพอดี แต่ให้ลูกทำนาแทนไปก่อน เพราะอยากมาเห็นริ้วขบวนพระศพ หากไม่มาครั้งนี้ชั่วชีวิตนี้อาจไม่มีโอกาสได้เห็นอีกก็ได้

"คิดถึงพระองค์ท่าน เพราะสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ทรงช่วยเหลือคนยากคนจนมาตลอด อย่างแพทย์ พอสว.เคยไปรักษาชาวบ้านในหมู่บ้านตน ดังนั้น จึงอยากมาเคารพพระศพเป็นครั้งสุดท้าย" นางวินกล่าว

น.ส.จรรยา มหรรณพ อายุ 71 ปี บ้านอยู่เขตดอนเมือง กทม. กล่าวว่า มาจองพื้นที่บริเวณด้านหน้าวังสราญรมย์ตั้งแต่ 13.00 น. เพื่อชมริ้วขบวนอัญเชิญพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยมาจับจองพื้นที่หน้าศาลอาญา เพื่อเฝ้าชมริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีแล้ว ครั้งนี้ได้เปลี่ยนจุดชมมาเป็นหน้าวังสราญรมย์ เพราะจะได้กราบพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯใกล้ๆ

"ที่มาครั้งนี้เพราะรู้สึกว่าพระองค์ท่านทรงทุ่มเทให้กับประชาชนมาก ทรงช่วยเหลือชาวบ้าน และทรงงานมากมาย มานอนค้างตั้งแต่คืนนี้เลยโดยเตรียมเสื่อและผ้าห่มมาด้วย" น.ส.จรรยากล่าว

จะระลึกถึงพระองค์ตลอดไป

นางกรกมล พูลพิพัฒน์ อายุ 46 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า มาจับจองพื้นที่ด้านหน้าวังสราญรมย์ ฝั่งตรงข้ามวัดพระแก้ว ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เพื่อจะได้มองเห็นริ้วขบวนได้ชัดเจน โดยเตรียมผ้าห่ม เสื้อหนาว ยา น้ำ และอาหารแห้งมาด้วย

"เคยไปลงนามถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่โรงพยาบาลศิริราชมาแล้ว เมื่อพระองค์สิ้นพระชนม์ก็รู้สึกเสียใจ อยากมากราบพระศพเป็นครั้งสุดท้าย และจะระลึกถึงพระองค์ตลอดไป" นางกรกมลกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ตั้งแต่บ่ายวันเดียวกันนี้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปถ่ายรูปด้านหน้าพระเมรุ บริเวณนอกรั้วเหล็กไว้เป็นที่ระลึก ก่อนจะมีพิธีสำคัญ รวมทั้งซื้อพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กลับไปเป็นที่ระลึกด้วย

ลุง69จองพื้นที่ตี5ไม่หวั่นแดดร้อน

นางอำนวย อุณหดิลก อายุ 76 ปี ชาว จ.ตาก กล่าวว่า เดินทางมาจาก จ.ตาก ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อมาร่วมถวายสักการะพระศพ และร่วมงานพระราชพิธีครั้งสำคัญ โดยได้จับจองพื้นที่บริเวณหน้าศาลฎีกาตั้งแต่ช่วงเช้าวันเดียวกัน เพื่อรอร่วมงานพระราชพิธีในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ "ลูกๆ ไม่ยอมให้มาหรอก เพราะเห็นว่ามาคนเดียวและยายแก่แล้ว แต่ยายอยากมาร่วมงานครั้งนี้" นางอำนวยกล่าว

นายเปล่ง สุขสะดม อายุ 69 ปี ซึ่งจับจองที่นั่งบริเวณหน้าศาลหลักเมือง กล่าวว่า มาจาก จ.ลพบุรี คนเดียว ตั้งแต่ตี 5 เพื่อมาจับจองพื้นที่รอรับเสด็จฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระบรมวงศานุวงศ์ และร่วมในงานสำคัญครั้งนี้

"ไม่ว่าแดดจะร้อนแค่ไหน ก็ไม่หวั่น เพราะถ้าลุกไปคงต้องเสียที่นั่งแน่ และคืนนี้ลุงก็จะนอนตรงนี้เช่นกัน และก่อนหน้านี้ลุงก็เคยมาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ 7 ณ เมรุมาศ ท้องสนามหลวง รวมถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนีด้วยเช่นกัน" นายเปล่งกล่าว

พระเทพฯทรงร้อยม่านตาข่ายประดับ

สำหรับการเตรียมความพร้อมของงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพนั้น ในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 10.00 น. คณะช่างเครื่องสดได้ทยอยนำเอาม่านตาข่ายดอกไม้ หยวกกล้วย และเครื่องสดแกะสลัก รวมทั้งเครื่องประกอบพระจิตกาธาน จากทั้งเขตพระราชฐานฝ่ายในที่รับผิดชอบเรื่องดอกไม้สด และจากที่สโมสรข้าราชบริพาร ซึ่งได้จัดทำเสร็จแล้วตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 พฤศจิกายน เข้าสู่พระเมรุ

นายบุญชัย ทองเจริญบัวงาม ผู้ควบคุมและดูแลช่างเครื่องสดกล่าวว่า การประดับพระจิตกาธานจะเริ่มจากดอกไม้สดก่อน โดยจะประดับด้วยม่านตาข่ายดอกไม้ก่อน จากด้านบนลงมาด้านล่าง ซึ่งยอดบนสุดของพระจิตกาธาน ชั้น 7  จะเป็นม่านตาข่ายทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 21 ซม.ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นผู้ร้อยด้วยพระองค์เอง ส่วนพระนามย่อก.ว.และสัตว์ป่าหิมพานต์แกะสลักจากฟักทอง ซึ่งจะติดอยู่บริเวณด้านหน้าของพระจิตกาธาน ประดับในเวลา 04.00 น.ของวันที่ 15 พฤศจิกายน เพื่อให้มีความสด ไม่เหี่ยวมากที่สุด

เตรียมนำเครื่องสดลอยน้ำตามประเพณี
 
นายบุญชัย กล่าวอีกว่า เมื่อคืนวันที่ 13 ที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จฯทอดพระเนตรความเรียบร้อย พระองค์รับสั่งถามว่า ผลไม้และเครื่องสดทั้งหมดมีอายุการใช้งานนานเท่าใด นายบุญชัยกราบทูลว่า มีอายุการใช้งานประมาณ 12 ชั่วโมง เมื่อนำมาประดับที่พระจิตกาธารเรียบร้อยแล้วจะเหลืออายุการใช้งานประมาณ 8 ชั่งโมง เนื่องจากถูกแสงแดดและอากาศภายนอกอาจทำให้เครื่องสดบางอย่างเหี่ยวเฉาได้ จึงต้องใช้น้ำหล่อเลี้ยงให้มีความชื้นตลอดเวลา

"การประดับผลไม้และเครื่องสดทั้งหมด จะเสร็จสิ้นในเวลา 19.00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน เพื่อให้ทันต่องานพระราชพิธีในเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน และภายหลังจากพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพในช่วงดึกของวันที่ 15 พฤศจิกายนก็จะนำผลไม้และเครื่องสดทั้งหมดไปลอยน้ำตามธรรมเนียมโบราณราชประเพณีต่อไป"

สมเด็จพระเทพรับสั่งดูแลช่างแทงหยวก
 
นายวิริยะ สุสุทธิ เจ้าหน้าที่บริหารงานในพระองค์ ระดับ 5 ฝ่ายพัฒนาบุคลากรด้านศิลปะ กองศิลปกรรม สำนักพระราชวัง ในฐานะผู้ควบคุมเครื่องสด และดูแลช่างเครื่องสด ลูกชายคนสุดท้าย ของนายประสม สุสุทธิ ช่างแทงหยวกวัย 84 ปีจากจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเคยถวายงานแทงหยวกเมื่อครั้งงานพระราชเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รวมถึงงานพระราชทานเพลิงพระศพในครั้งนี้ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาที่สโมสรข้าราชบริพาร พระองค์ทรงมีพระเมตตา รับสั่งถึงพ่อที่กำลังป่วย  พระองค์ทรงถามว่า ขณะนี้พักรักษาตัวอยู่ไหน จึงกราบทูลว่า ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี พระองค์จึงมีรับสั่งให้คุณพ่อเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช และยังทรงรับคุณพ่อเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ โดยจะให้คุณพ่อเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชในเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 14 พฤศจิกายน

ส่งมอบพระโกศทองคำ-ไม้จันทน์
 
นายวิริยะ สุสุทธิ บุตรชายนายประสม สุสุทธิ ช่างแทงหยวกประดับพระจิตกาธาน กล่าวที่พระเมรุ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ว่า คณะช่างแทงหยวกกว่า 30 คนได้เข้ามาประดับหยวกบริเวณพระจิตกาฐานตั้งแต่ 10.00 น. โดยเริ่มประดับหยวกตั้งแต่ยอดลงมายังฐาน ซึ่งจะได้ดำเนินให้เสร็จสมบูรณ์ภายในคืนนี้จะได้ทันงานพระราชพิธี โดยมีน.อ.อาวุธ เงินชูกลิ่น ประธานคณะทำงานออกแบบและจัดสร้างพระเมรุ คอยตรวจการทำงานอย่างต่อเนื่อง
 
ต่อมาเวลา 13.15 น. ที่กรมศิลปากร น.อ.อาวุธ  พร้อมด้วย นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร และผู้บริหารกรมศิลปากร ได้ส่งมอบพระโกศทองคำลงยาสีประดับพลอยทรงพระอัฐิ และช่อดอกไม้จันทน์สำหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ ในการพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ  ให้แก่สำนักพระราชวัง โดยมีนางพรจันทร์ นุกุลประดิษฐ์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวัง เป็นตัวแทนรับมอบ

พระราชรถสมบูรณ์พร้อมใช้งาน
 
นายเกรียงไกร กล่าวว่า วันนี้ทางมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ได้นำผ้าคลุมต้นไม้ และดอกไม้ภายในพระเมรุออกหมดแล้ว ทั้งนี้ยังได้ประดับดอกไม้สีฟ้าเพิ่มเติมบริเวณด้านหน้าทางขึ้นพระเมรุ เพื่อให้มีดอกไม้เต็มพื้นที่ และมีความสวยงามยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามกรมประชาสัมพันธ์ได้ทำหนังสือแจ้งว่าจะจัดนิทรรศการภายในพระเมรุ เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าชมในวันที่ 18-30 พฤศจิกายนนี้ 
 
พ.อ.ศักดา ศิริรัตน์ ผู้อำนวยการกองงานช่างแสง ศูนย์อุตสาหการสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก กล่าวว่า  คณะทหารช่างกรมสรรพาวุธทหารบกได้ทำการตรวจเช็คสภาพพระมหาพิชัยราชรถ ราชรถน้อย ก่อนใช้ในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อน ระบบการเบรก ของทั้ง 2 องค์ มีสภาพที่สมบูรณ์พร้อมใช้ในพระราชพิธีฯ หรือออกพระเมรุ ส่วนการเคลื่อนราชรถออกจากโรงราชรถนั้นทางคณะทหารช่างจะเตรียมพร้อมราชรถตั้งแต่เวลา 03.00 น.ของวันที่ 15 พฤศจิกายน

ศธ.ประกาศอภิสดุดีเฉลิมพระสมัญญา
 
นายศรีเมือง เจริญศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นประธานในพิธีถวายความเคารพและอ่านประกาศอภิสดุดีเฉลิมพระสมัญญา "พระกัลยาณมิตราจารย์" แด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯที่หอประชุมคุรุสภา โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษาและประชาชน พร้อมใจกันแต่งกายไว้ทุกข์สีขาวดำมาร่วมงานกว่า 1,000 คน ทั้งนี้หลังจากนายศรีเมือง อ่านประกาศอภิสดุดีเฉลิมพระสมัญญา ผู้เข้าร่วมในพิธียังร่วมกันร้องเพลงส่งนางฟ้ากลับสวรรค์ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อีกทั้งยังมีการประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่พระองค์ด้วย จากนั้นรัฐมนตรีว่าการศธ. มอบหนังสือพระนิพนธ์นิทานสำหรับเด็กในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ  3 เล่ม แก่ผู้แทนนักเรียน ได้แก่ เล่มที่ 1 สำหรับนักเรียนชั้นป.1 ประกอบด้วยนิทาน 4 เรื่อง ได้แก่ หมูสามตัว ไก่แดง ผู้ชายที่ไม่ชอบงาน และทำไมช้างถึงมีงวง, เล่มที่ 2

สำหรับนักเรียนชั้นป.2 จำนวน 4 เรื่อง ประกอบด้วย พระเจ้าแผ่นดินไม่เสวยพระกระยาหาร ตาเดียวสองตาและสามตา เจ้าหญิง 12 องค์ และหม้อแป้งโอต และเล่มที่ 3 สำหรับนักเรียนชั้นป.3 จำนวน 5 เรื่อง ได้แก่ ทำไมสุนัขจิ้งจอกจึงมีหางขาว เจ้าหญิงนอนหลับ 100 ปี พระอุทุมชุมสาย นางงามและหมี และดิ๊ก วิททิงตั้นและแมว โดยภาพประกอบในหนังสือเป็นภาพที่วาดโดยนักเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เหมาะสำหรับเป็นหนังสืออ่านประกอบในห้องสมุดของสถานศึกษาทุกแห่ง โดยจะเผยแพร่ให้แก่โรงเรียนประถมศึกษาทั่วไป 34,000 แห่งต่อไปด้วย

"สมชาย"เผยเตรียมความพร้อม100%
 
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมีความพร้อมจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเตรียมการรองรับประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางมาร่วมงาน ก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทั้ง 7 ฝ่าย มาอำนวยความสะดวกในงาน อาทิ ฝ่ายความปลอดภัย และฝ่ายจราจร เชื่อว่าการเดินทางมาร่วมงานพระราชพิธีฯไม่น่าจะปัญหาอะไร เพราะทุกคนมีจิตใจแบบเดียวกัน
 
นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในช่วงการไว้อาลัยสมเด็จพระพี่นางฯ  จะมีตัวแทนพรรค  25 คน เข้าร่วมงานพระราชพิธี  นอกจากนี้ พรรคได้ให้ส.ส. ประธานสาขาพรรค กรรมการสาขาพรรค ลงพื้นที่เพื่อพบปะ ทำกิจกรรม และเข้าร่วมงานพิธีพร้อมกับประชาชนในท้องถิ่นด้วย  ทั้งนี้ พรรคจะหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ในประเด็นที่เป็นความขัดแย้งทางการเมือง เว้นแต่จะถูกพาดพิงทางการเมือง พรรคอาจจำเป็นต้องมีการชี้แจงบ้าง

ทั่วปท.เตรียมการถวายดอกไม้จันทน์
 
สำหรับในพื้นที่ต่างจังหวัด   ผู้ว่าราชการจังหวัด ตลอดจนส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) และ สถาบันการศึกษา ทั่วประเทศ อาทิ จ.ลำปาง สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา สตูล  นครราชสีมา นครศรีธรรมราช ราชบุรี สงขลา ตรังจัดเตรียมความพร้อมจัดสถานที่ เพื่อจัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ในวันที่ 15 พฤศจิกายน  ตลอดจนซักซ้อมพิธีการ เตรียมการจัดมหรสพเพื่อแสดงความอาลัย และถือเป็นงานออกทุกข์
 
โดยที่ลำปาง สถาบันคชบาลแห่งชาติฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้จังหวัดลำปาง  จัดช้าง 2  พังพระธิดาจุฑานันท์ และพังวนาลี ซึ่งเป็นช้างในอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและถวายความอาลัยด้วย
  
ส่วนที่เพนียดคล้องช้าง จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ได้นำ ช้าง 9 เชือก นำโดยพลายนำโชค เป็นตัวแทนช้างจากวังช้างอยุธยา วางดอกไม้จันทน์วางถวายสักการะหน้าพระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯเนื่องจากทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อช้างไทยและคนเลี้ยงช้างไทย อีกทั้งทรงพระราชทานแนวทางให้ดำรงวัฒนธรรมการเลี้ยงช้างไทย และให้ช้างไทยมีงานทำแทนการชักไม้ในป่า
 
ส่วนนายยศพนต์ สุธรรม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดยโสธร พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำ และผู้ต้องขัง 630 คน ร่วมกันปฏิบัติธรรม สวดมนต์ ภาวนา นั่งสมาธิ เพื่อถวายเป็นราชกุศลแด่พระเจ้าพี่นางเธอฯ เพื่อเป็นการสำนึกในพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อปวงชน

สื่อนอกแพร่ข่าวจัดขึ้นสมพระเกียรติ
 
สำนักข่าวเอเอฟพี เบอร์นามา และเว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชีย ได้รายงานข่าวพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯอย่างต่อเนื่อง โดยระบุว่า ประชาชนชาวไทยร่วมใจกันใส่ชุดดำเพื่อร่วมไว้ทุกข์เป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 14-16 พฤศจิกายน และยังมีการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติขึ้นในหลายแห่งทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีการรายงานถึงรายละเอียดของการจัดพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติ และเทิดพระเกียรติพระองค์ในฐานะผู้ทรงสละเวลาทั้งชีวิตให้กับงานด้านศิลปะ การศึกษาของประเทศ


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์