ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 550 จุด หลังดิ่งลงอย่างหนักมาตลอด 3 วัน ส่วนราคาน้ำมันดิบขัยบขึ้นมาเกือบ 3 ดอลลาร์สหรัฐ
ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ตลาดหุ้นสหรัฐคลายความผันผวนลง หลังจากตลอด 3 วันที่ผ่านมา ดัชนีดิ่งลงอย่างหนักจากปัจจัยลบต่าง ๆ จนแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีครึ่ง โดยนักลงทุนเลือกที่จะเข้าช้อนซื้อหุ้นในหลากหลายกลุ่มหลังจากที่เทขายมาตลอด แม้จะมีปัจจัยลบเข้ามาอีกในส่วนของแรงงานที่เพิ่งถูกเลิกจ้าง และยื่นขอความช่วยเหลือจากทางการในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่หลังเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2544 แต่นักลงทุนก็เชื่อว่าตลาดไม่น่าจะมีข่าวร้าย ๆ เข้ามาอีกแล้ว ทำให้ดัชนีพุ่งขึ้นอย่างคึกคัก
ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2.08 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ระดับ 58.24 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวน์โจนส์ ปิดที่ 8,835.25 จุด ปรับขึ้น 552.59 จุด หรือ 6.67% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 1,596.70 จุด ปรับขึ้น 97.49 จุด หรือ 6.50% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 911.29 จุด ปรับขึ้น 58.99 จุด หรือ 6.92%
ด้านตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวกระจาย ดัชนีหุ้นยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 4,169.21 จุด ลดลง 12.81 จุด หรือ 0.31% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 4,649.52 จุด ปรับขึ้น 28.72 จุด หรือ 0.62% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 3,269.46 จุด ปรับขึ้น 35.50 จุด หรือ 1.10% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 51.99 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ลดลง 38 เซนต์
ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 704.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 12.80 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 701.85 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ลดลง 21.50 ดอลลาร์สหรัฐ.