กระแส "พลังงานทดแทน" ที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้รัฐบาลประเทศต่างๆ และเมืองสำคัญๆ ทั่วโลกหันมารณรงค์การใช้พลังงานทดแทนน้ำมันกันอย่างกว้างขวาง
เช่นเดียวกับ เปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก ก็เป็นหนึ่งในผู้นำท้องถิ่นที่เห็นความสำคัญของพลังงานทดแทน โดยเป็นการดำเนินการตามนโยบายของรัฐที่ส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรที่มีศักยภาพให้จัดตั้งโรงงานผลิตเชื้อเพลิงจากขยะขึ้น
ต่อมา ส่วนอนุรักษ์พลังงาน และพลังงานหมุนเวียน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ก็สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แปรรูป "ขยะ" เป็น "น้ำมัน" ไว้ใช้ในชุมชน
อปท.ที่เข้าเงื่อนไขต้องมีขยะไม่น้อยกว่า 30 ตันต่อวัน และต้องมีขยะพลาสติกเป็นส่วนประกอบไม่น้อยกว่า 6 ตันต่อวัน และมีขยะในหลุมฝังกลบไม่น้อยกว่า 1 แสนตัน !!
ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมการแปรรูปจากขยะเป็นน้ำมัน เป็นโครงการเพื่อการสนับสนุนในรูปแบบงานศึกษาวิจัยพัฒนา และสาธิต เพื่อเป็นโครงการนำร่อง โดย กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จัดสรรงบประมาณ 105 ล้านบาท เพื่อสนับสนุน อปท.ที่ร่วมโครงการ
อปท.ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับเงินค่าลงทุนระบบคัดแยก และระบบแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน ไม่เกินร้อยละ 25 ของเงินลงทุนระบบคัดแยก และแปรรูปขยะเป็นน้ำมัน รวมทั้งเงินสนับสนุนค่าที่ปรึกษาออกแบบระบบไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินลงทุน