ฮือฮากุหลาบดำ ใช้สะเดาะเคราะห์

การจัดแสดงพรรณไม้ครั้งยิ่งใหญ่อลังการของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม เนื่องในโอกาสครบ 61 ปี ที่มีการเนรมิตพื้นที่ส่วนหนึ่งของห้าง จัดทำเป็นเหมือนสวนสวรรค์แห่งดอกไม้และพรรณไม้นานาพันธุ์

โดยเฉพาะความอลังการตระการตาของ “ทุ่งดอก คอสมอส” หรือดอกดาวกระจายสายพันธุ์จากอเมริกากลาง รวมทั้งยังมีการนำดอกกุหลาบ “ราชินีแห่งดอกไม้” รวม 61 สายพันธุ์ที่สวยงามมาโชว์ อาทิ กุหลาบสายพันธุ์ควีนสิริกิติ์ สายพันธุ์พระนามสิรินธร สายพันธุ์แอมบริดจ์ โรส พันธุ์บิชอปส์ คาสเซล พันธุ์โซวีเนียร์ เดอ ลา มาล์เมซอง พันธุ์ลาเกอร์เฟลด์ พันธุ์แอนนา พาฟโลวา พันธุ์โป๊ป จอห์น ปอล ที่ 2 พันธุ์ไดอาน่า ปริ๊นเซส ออฟ เวลส์ และที่เป็นไฮไลต์เด่นสุด ได้รับความสนใจและเป็นที่ฮือฮาของผู้ชมงานมากเป็นพิเศษคือ กุหลาบสายพันธุ์แบล็กโรส หรือ “กุหลาบดำ” ที่โครงการหลวงใช้เวลาในการขยายพันธุ์กว่า 10 ปีจึงสำเร็จ มีความโดดเด่นเรื่องสี มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในงานดังกล่าว ซึ่งมีพิธีเปิดงานเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 29 ต.ค.

สำหรับความเป็นมาของดอกกุหลาบ “สีดำ” ที่ไม่ค่อยพบเห็นในท้องตลาดทั่วไปนั้น นายสืบศักดิ์ นวจินดา ผอ.ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า

เมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว ตนเดินทางไปดูงานที่ประเทศเยอรมนี แล้วพบว่ามีกุหลาบสายพันธุ์แบล็กโรส หรือกุหลาบดำ มีสีสันสะดุดตา ตามปกติแล้ว กุหลาบส่วนใหญ่จะมีสีแดงเป็นหลัก แต่กุหลาบพันธุ์ดังกล่าว มีลักษณะสีแดงเข้มมากเหมือนสีเลือดหมู จนเกือบดำเหมือนกำมะหยี่ ดอกเมื่อบานเต็มที่มีขนาดใหญ่ จึงนำกุหลาบพันธุ์ดังกล่าวมาปลูกครั้งแรกที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ระยะแรกประสบปัญหากุหลาบมีกิ่งใหญ่ แต่ดอกเล็ก เนื่องจากขาดการบำรุงที่ต้องใช้ปุ๋ยสูตรเฉพาะ ที่มีไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โปรแตสเซียม ผสมผสานกัน ต้องใช้เวลาหลายปีจึงสามารถพัฒนาสายพันธุ์ให้เข้ากับภูมิอากาศบ้านเรา จนให้ผลผลิตมีดอกใหญ่เหมือนดินแดนต้นกำเนิดคือประเทศเยอรมนีไม่ผิดเพี้ยน 

นายสืบศักดิ์กล่าวอีกว่า ต่อมาจึงขยายพันธุ์ด้วยการติดตา นำไปปลูกที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง ปรากฏว่าให้ผลผลิตดี ดอกโต ใช้เวลาแค่ 8 เดือนก็สามารถตัดดอกได้

อย่างไรก็ตาม กุหลาบพันธุ์นี้ในท้องตลาดเรียกกันว่า “กุหลาบดำ” จึงไม่เป็นที่นิยม เพราะสีสันไม่สดใส ออกไปในแนวเศร้าไม่เป็นที่ต้องการของตลาดดอกไม้ มักใช้ในงานพระราชพิธีต่างๆ หรือพิธีสะเดาะเคราะห์ การนำมาแสดงในงานนี้ เพื่อให้ผู้นิยมพรรณไม้ได้ศึกษาความงดงามอีกรูปแบบหนึ่ง ของกุหลาบอีกสายพันธุ์ที่ได้ชื่อว่า “กุหลาบดำ”

ด้านนางจิราภรณ์ ยังอยู่ดี เจ้าหน้าที่ไม้ดอก สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เปิดเผยว่า สายพันธุ์แบล็กโรส หรือกุหลาบดำ ซึ่งเป็นกลุ่มกุหลาบสีดำ มี 4 ชนิด

คือ แบล็กบัคคาร่า ขนาดดอก 2-3 นิ้ว แบล็กเมจิก ขนาดดอก 4-6 นิ้ว แบล็กบิวตี้ ขนาดดอก 4-6 นิ้ว บัคคาโร ขนาดดอก 3-4 นิ้ว ปัจจุบันมีปลูกอยู่ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง และโครงการหลวงทุ่งเริง ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เหมาะสมกับการปลูกกุหลาบพันธุ์นี้ รวมทั้งผ่านการพัฒนาสายพันธุ์มาประมาณ 15 ปี จึงได้สายพันธุ์อย่างที่ต้องการเหมาะสมกับสภาพอากาศภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม กุหลาบสายพันธุ์นี้เป็นกุหลาบสีแปลก และมีความพิเศษไม่เหมือนดอกกุหลาบชนิดอื่น ทว่าไม่เป็นที่นิยมเหมือนกุหลาบสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีสีสันสวยงามในท้องตลาดทั่วไป