สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันนี้ (1 ต.ค.) อ้าง ศาสตราจารย์รอสส์ การ์โนต์ ที่ปรึกษาระดับสูงเรื่องปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของรัฐบาลออสเตรเลีย
ระบุในรายงานสำคัญที่เสนอต่อรัฐบาลออสเตรเลียว่าด้วยภาวะโลกร้อน ว่า การเรอและการผายลมของปศุสัตว์ เป็นตัวการใหญ่ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศออสเตรเลีย คิดเป็นร้อยละ 67 ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรกรรม ในทางกลับกัน จิงโจ้ปล่อยก๊าซมีเทนออกมาในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น หากเกษตรกรผู้ทำปศุสัตว์ถูกนำไปรวมในระบบอุตสาหกรรมที่ต้องซื้อใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจก ก็จะทำให้ราคาเนื้อวัวและแกะเพิ่มสูงขึ้น จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนิสัยการบริโภค
ศาสตราจารย์รอสส์ การ์โนต์ ระบุด้วยว่า รายงานชิ้นนี้เสนอความเป็นไปได้ที่จะให้จิงโจ้มาแทนที่แกะและวัว
ในการผลิตเนื้อของประเทศออสเตรเลีย โดย ภายในปี 2563 จำนวนวัวและแกะอาจลดลง 7 ล้านตัว และ 36 ล้านตัว ตามลำดับ ทำให้จำนวนจิงโจ้เพิ่มขึ้นจาก 34 ล้านตัว ในปัจจุบัน เป็น 240 ล้านตัว ภายในปี 2563
รายงานระบุว่า แม้จิงโจ้เป็นสัตว์ประจำชาติออสเตรเลีย และปรากฏอยู่บนตราเครื่องหมายประจำตระกูลขุนนาง ในแต่ละปีกลับมีจิงโจ้ถูกฆ่าตายในป่าจำนวนหลายล้านตัว เพื่อควบคุมประชากรจิงโจ้
เนื้อจิงโจ้ที่ถูกฆ่าตายส่วนใหญ่จะถูกนำไปทำอาหารสัตว์ และแม้แนวความคิดที่จะทำฟาร์มจิงโจ้สำหรับการบริโภคของมนุษย์ยังเป็นเรื่องที่เป็นข้อโต้แย้งกันอยู่ แต่ชาวออสเตรเลียที่ใส่ใจสุขภาพจำนวนมากก็บริโภคเนื้อจิงโจ้อยู่แล้ว เพราะมีไขมันต่ำ โปรตีนสูง และสะอาด
นักวิทยาศาสตร์ออสซี่ยุบริโภคจิงโจ้ ช่วยลดโลกร้อน
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ นักวิทยาศาสตร์ออสซี่ยุบริโภคจิงโจ้ ช่วยลดโลกร้อน
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!