ทปอ.ยันแอดมิชชั่นต่อ ให้คงจีพีเอ-จีพีเอเอ็กซ์

หลังจากเกิดปัญหาสารพัดในการสอบโอ-เน็ต เอ-เน็ต เพื่อนำคะแนนมาใช้เข้าเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา หรือที่เรียกว่าระบบแอดมิชชั่น จนเกิดกระแสเรียกร้องจากผู้ปกครองให้ยกเลิกระบบดังกล่าว แล้วกลับไปใช้การสอบเอ็นทรานซ์เหมือนเก่า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (17 มิ.ย.) ที่ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ได้ร่วมกันหารือเพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับแนวทางการคัดเลือกนิสิตนักศึกษาเพื่อศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2550 ในระบบแอดมิชชั่น โดยมีอธิการบดีมหาวิทยาลัยต่างๆเข้าร่วมประชุม อาทิ นายปรัชญา เวสารัชช์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะประธาน ทปอ. นายพงษ์ศักดิ์ อังกสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายพรชัย มาตังคสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฯลฯ

การประชุมใช้เวลานานกว่า 4 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ โดยนายปรัชญาแถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติร่วมกันว่า จะยังคงใช้ระบบแอดมิชชั่นในการคัดเลือกนิสิตนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ในปีหน้า หรือปีการศึกษา 2550 โดยยึดหลักการเดิมเหมือนปีที่ผ่านมา คือจะใช้ผลการเรียนเฉลี่ยตลอดหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือจีพีเอเอ็กซ์ ร้อยละ 10 ผลการเรียนเฉลี่ยรายกลุ่มสาระ หรือจีพีเอ ร้อยละ 20 รวม ร้อยละ 30 และคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอ-เน็ต ร้อยละ 35-70 และคะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นสูง หรือ เอ-เน็ต ร้อยละ 0-35 แต่รายละเอียดน้ำหนักของแต่ละองค์ประกอบที่แต่ละคณะวิชาจะคัดเลือกนั้น ส่วนหน่วยงานที่จะจัดสอบโอ-เน็ตและเอ-เน็ต จะเป็นหน่วยงานใดนั้น จะมอบหมายให้คณะทำงานพิจารณาระบบการคัดเลือกนักศึกษาระยะปัจจุบัน ระยะกลางและระยะยาว เป็นผู้พิจารณานำเสนอต่อ ทปอ. ภายใน 1 เดือน โดยมี นายพรชัย มาตังคสมบัติ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธาน และจะเสนอมติ ทปอ. ต่อนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว. ศึกษาธิการ เพื่อให้แก้ไขประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ในปีการศึกษา 2550 จะเพิ่มค่าน้ำหนักจีพีเอและจีพีเอเอ็กซ์ รวมร้อยละ 40

ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีอธิการบดีบางคนเสนอให้ ยกเลิกการใช้คะแนนจีพีเอและจีพีเอเอ็กซ์ เพราะทำให้ ผู้ปกครองบางคนเข้าไปกดดันครูอาจารย์เพื่อให้เกรดบุตรหลานดีๆ ส่งผลให้เกิดปัญหาเกรดเฟ้อ แต่ที่ประชุมเห็นว่า เกณฑ์ดังกล่าวประกาศใช้ล่วงหน้า และเด็กๆก็รับทราบมานานแล้ว ก็จะยังคงใช้เกณฑ์ตามเดิม แต่จะไม่เพิ่มน้ำหนักจีพีเอและจีพีเอเอ็กซ์มากขึ้น

ประธาน ทปอ.กล่าวอีกว่า คณะทำงานพิจารณาระบบการคัดเลือกนักศึกษาฯจะทำหน้าที่แก้ไขปัญหาระยะสั้น กลาง และยาว โดยในระยะสั้นจะแก้ไขปัญหาการรับนักศึกษาเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเหมือนปีก่อน ส่วนระยะกลางและระยะยาวนั้นจะวางมาตรการการคัดเลือกคนเข้าศึกษาต่อให้เหมาะสมกับเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งที่มีลักษณะแตกต่างกัน ซึ่ง ทปอ.จะเข้ามารับ ผิดชอบการรับนิสิตนักศึกษาให้มากขึ้น โดยไม่พึ่งสำนัก งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มากเหมือนในอดีต โดย ทปอ.จะต้องรับผิดชอบตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัคร การวัดผล การประกาศ ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยต่างๆเห็นตรงกันว่า การรับนิสิตนักศึกษาด้วยวิธีการรับตรงยังเป็นสิ่งจำเป็นของมหาวิทยาลัยอยู่ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาค เพราะได้คนตามที่มหาวิทยาลัยต้องการ ทั้งเป็นการให้โอกาสกับกลุ่มคนด้อยโอกาส และมหาวิทยาลัยในส่วนกลางก็มีแนวโน้มที่จะรับตรงเพิ่มขึ้นด้วย แต่อาจต้องตกลงร่วมกันว่ามหาวิทยาลัยควรรับตรงในช่วงเวลาเดียวกัน และหากนักเรียนสอบติดระบบรับตรงแล้ว จะไม่ให้มีการสละสิทธิ์เพื่อมาสมัครคัดเลือกในระบบรับรวมจากส่วนกลางอีก ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ คณะทำงานฯจะดูแลต่อไป

ด้านนายพรชัย มาตังคสมบัติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานคณะทำงาน กล่าวว่า สาเหตุที่ ทปอ.คงเกณฑ์การรับนิสิตนักศึกษาของปี 2549 เพราะต้องการให้นักเรียนทราบกรอบล่วงหน้า ไม่วิตกกังวลมากเกินไป และต้องการยืนยันว่าหลักการของแอดมิชชั่นเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องเตรียมการป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาอีก เพราะ ทปอ.รู้สึกเป็นหนี้สังคม เนื่องจากปีที่ผ่านมาเราทำให้นักเรียนและผู้ปกครองตกใจมามากพอแล้ว และ ทปอ.ก็ถือเป็นหน้าที่ที่จะเรียกความเชื่อมั่นจากนักเรียน ผู้ปกครอง และสังคม ต่อระบบการคัดเลือกนิสิตนักศึกษาให้กลับคืนมา ส่วนการแก้ไขปัญหาในระยะยาวนั้น จะหาวิธีการคัดเลือกอื่นๆที่เหมาะสม โดยมีแนวโน้มว่าจะไม่ใช้คะแนนเป็นตัวตัดสินการคัดเลือกคนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเพียงอย่างเดียว แต่จะใช้ความถนัดหรือทัศนคติบางอย่างมาคัดเลือก เหมือนที่คณะแพทยศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ใช้อยู่ในการคัดเลือกในระบบโควตาและรับตรง แต่จะต้องหาวิธีขยายผลเพื่อใช้ในการคัดเลือกคนจำนวนมากให้ได้