2 ทรชนฉุดนร.ม.5 ถ่ายรูป-แบล็กเมล์

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 มิ.ย. พ.ต.อ.สมเดช ฐิตะวัฒนสกุล ผกก.สภ.อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้เบิกตัวนายศิขพงษ์ จิตรวิรัตน์ อายุ 29 ปี อยู่ทาวน์เฮาส์เลขที่ 325 หมู่บ้านสวนตะไคร้ ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม และนายณรงค์ นราเก อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/4 หมู่ 6 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม ผู้ต้องหาคดีฉุดคร่า น.ส.นิ้ง (นามสมมติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ไปข่มขืนแล้วถ่ายรูปแบล็กเมล์ เนื่องจากสงสัยว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้ว แต่ผู้ห้องหายืนยันอ้างว่าเพิ่งก่อเหตุเพียงครั้งแรก


เบื้องหลังการจับกุมผู้ต้องหาภัยสังคมรายนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. ขณะที่ น.ส.นิ้ง ผู้เสียหาย เดินอยู่ริมถนนศาลายา-นครชัยศรี ตรงข้ามร้านโจปลาเผา หมู่ 5 ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล เพื่อต่อรถโดยสารไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพฯ นายศิขพงษ์ได้ขับรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์ ทะเบียน บม 2686 นครปฐม ปาดหน้า แล้วนายณรงค์ ที่นั่งคู่มาด้วยกัน ลงจากรถใช้มีดคัตเตอร์จี้คอ น.ส.นิ้ง ฉุดขึ้นรถบังคับให้นอนหมอบกับพื้นรถ ใช้เสื้อแจ็กเกตคลุมศีรษะ ขับพาไปบ้านของนายศิขพงษ์


จากนั้นนายศิขพงษ์ ลาก น.ส.นิ้ง ขึ้นไปห้องนอนชั้นบน บังคับให้เปลื้องเสื้อผ้าออกแล้วใช้โทรศัพท์มือถือของ น.ส.นิ้ง ถ่ายรูปเปลือยของผู้เสียหาย ก่อนจะปลุกปล้ำขืนใจจนสำเร็จความใคร่ 2 ครั้ง ส่วนนายณรงค์ นั่งรออยู่ที่ชั้นล่าง จากนั้นนายศิขพงษ์และนายณรงค์ ร่วมกันทำร้ายร่างกายข่มขู่ให้ น.ส.นิ้ง นำเงิน 20,000 บาท ไปแลกกับภาพเปลือยที่นายศิขพงษ์ถ่ายไว้ มิฉะนั้นจะนำรูปถ่ายไปประจานที่โรงเรียน ก่อนจะนำผู้เสียหายไปปล่อยที่หน้า รพ.ศาลายา เมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน

หลังเกิดเหตุ น.ส.นิ้ง ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง ก่อนจะเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เอกสิทธิ์กายาชัย ร้อยเวร สภ.อ.พุทธมณฑล ซึ่ง พ.ต.อ.สมเดช ฐิตะวัฒนสกุล ผกก. ได้ร่วมสอบปากคำและวางแผนจับกุม โดยให้ น.ส.นิ้ง โทรศัพท์นัดผู้ต้องหาตัวแสบไปรับเงินที่หน้ามหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ถนนพุทธมณฑลสาย 4 ต.ศาลายา เวลา 09.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. โดยมีการนำเงินของกลางถ่ายเอกสารลงประจำวันไว้เป็นหลักฐาน


กระทั่งถึงเวลานัดหมาย ร.ต.อ.ชำนาญ รัตนพร รอง สวป. นำกำลัง 2 นาย นำรถปิกอัพอีซูซุดีแมคซ์ ทำทีว่ารถจอดเสียใกล้จุดนัดหมาย โดยมีตำรวจอีก 2 นาย สวมรอยเป็นคนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างดักรออยู่ กระทั่งผู้ต้องหาทั้งสองขับรถจอดประกบ และรับเงินจาก น.ส.นิ้ง ไปแล้ว ร.ต.อ.ชำนาญ กับพวก จึงขับรถเข้าไปขวางหน้ารถของผู้ต้องหา แต่นายศิขพงษ์กลับเร่งเครื่องชนรถตำรวจ แล้วขับหนีอย่างรวดเร็ว ร.ต.อ.ชำนาญ กับพวก จึงไล่กวดตามอย่างไม่ลดละ กระทั่งใกล้ถึงสามแยกไฟแดงหน้า สภ.อ.พุทธมณฑล ร.ต.อ.ชำนาญ จึงสั่งให้ตำรวจกดสัญญาณไฟแดงทางด้านถนนศาลายา-นครชัยศรี บังคับให้คนร้ายจอดรถ นายศิขพงษ์กับนายณรงค์ วิ่งลงจากรถหนีทันที แต่ถูก ร.ต.อ.ชำนาญ กับพวก ตามมาทันล็อกตัวไว้ได้ พร้อมเงินของกลาง และโทรศัพท์มือถือของ น.ส.นิ้ง พร้อมคุมตัวผู้ต้องหาไปตรวจสารเสพติดที่ รพ.ศาลายา พบฉี่สีม่วงทั้งคู่


ทางด้าน พ.ต.อ.สมเดช ฐิตะวัฒนสกุล ผกก.สภ.อ. พุทธมณฑล เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้ตั้งข้อหาผู้ต้องหาทั้งสองฐานร่วมกันพรากผู้เยาว์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ข่มขืน รีดเอาทรัพย์ และต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่าเพิ่งก่อเหตุครั้งแรก โดยนายศิขพงษ์ อ้างว่าขับรถไปเจอ น.ส.นิ้ง เดินอยู่ตามลำพัง จึงฉวยโอกาสลงมือ ส่วนนายณรงค์ให้การว่าไม่ได้ร่วมข่มขืนด้วย เพราะไม่กล้า แต่ตำรวจไม่เชื่อ เนื่องจากคนร้ายกระทำอย่างอุกอาจ คาดว่าน่าจะเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาแล้ว จึงอยากให้ผู้ที่สงสัยว่าเคยตกเป็นเหยื่อผู้ต้องหารายนี้ มาดูตัวที่โรงพักเพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ