ปลุก!พลังงานนิวเคลียร์ อ้างแหล่งผลิตไฟฟ้าราคาถูก ลดภาระนำเข้าน้ำมัน-ไร้มลพิษ

ผู้เชี่ยวชาญพลังงานระบุหากแนวโน้มสถานการณ์พลังงานยังวิกฤติ รัฐบาลคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้แม้มีกระแสต่อต้านจากประชาชนสูง

แหล่งข่าวจากผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่ราคาพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นตามไปด้วย ทางออกของรัฐบาลอีกทางหนึ่งก็คือการทบทวนโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ เนื่องจากมีต้นทุนต่ำส่งผลดีต่อค่าไฟ รวมถึงความมั่นคงทางพลังงานของประเทศด้วยอีกทางหนึ่ง

"แม้ในปัจจุบันโครงการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะยังได้รับการต่อต้านจากประชาชนอยู่ค่อนข้างมากก็ตาม แต่ก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องพยายามสร้างความเข้าใจให้กับประชาชน เนื่องจากในอนาคตต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก"แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับข้อดีของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์คือเป็นพลังงานสะอาดไม่ก่อให้เกิดมลพิษ และมีต้นทุนการผลิตต่ำมากเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชนิดอื่น ขณะเดียวกันเป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีกำลังผลิตได้มากกว่า 1,200 เมกะวัตต์

ส่วนข้อเสียที่ต้องใช้เงินลงทุนในระยะแรกค่อนข้างสูง และต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาบุคลากรรองรับเป็นเวลานับ 10 ปี ขณะเดียวกันต้องมีการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดการกากกัมมันตรังสีและด้านความปลอดภัย ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องการสร้างความยอมรับจากประชาชนทั่วไปด้วย

ขณะนี้มีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมด 438 โรง อยู่ระหว่างก่อสร้างอยู่ 31 โรง ซึ่งประเทศที่มีสัดส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มากที่สุด คือฝรั่งเศสที่มีสัดส่วนถึงร้อยละ 75 รองลงมาเป็ลิธัวเนีย เบลเยี่ยม บัลแกเรีย และสโลวะเกีย ซึ่งมีสัดส่วนร้อยละ 73.1 57.7 47.1 และ 47 ตามลำดับ

ส่วนในทวีปเอเชียประเทศญี่ปุ่นมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มากที่สุด จำนวน 53 โรง อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 4 โรง ตามด้วยเกาหลีใต้ 16 โรง กำลังก่อสร้าง 4 โรง อินเดีย 14 โรง ไต้หวัน 6 โรง กำลังก่อสร้าง 2 โรง จีน 3 โรง กำลังก่อสร้าง 7 โรง ปากีสถาน 2 โรง และอิหร่าน กำลังก่อสร้าง 2 โรง ขณะที่อินโดนีเซียและเวียดนามอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง