วันนี้ (13 ส.ค.) นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค
โดยเฉพาะหมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน 20 ราย สินค้ากว่า 100 รายการ ผู้ประกอบการระบุว่า แม้ต้นทุนวัตถุดิบราคาสูงขึ้น แต่จาก 6 มาตรการของรัฐบาล ที่มีเม็ดเงินลงไปกระตุ้นรากหญ้ากว่า 40,000 ล้านบาท ทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตสินค้าหลายรายการขายสินค้าได้สูงขึ้น
นายไชยา กล่าวว่า กลุ่มผู้ผลิตสินค้ายืนยันว่า จะยังไม่ขยับราคาสินค้าขึ้นในช่วงนี้ และยอมตรึงราคาสินค้าจนถึงสิ้นปี
แม้จะแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น เพื่อต้องการแบ่งเบาภาระประชาชนในการลดค่าครองชีพ ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง ขณะนี้มีราคาเฉลี่ย 112 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ลดลงจากช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่อยู่ระดับ 140 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ซึ่งหลังจากนี้ หากราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มลดลง น่าจะช่วยลดต้นทุนสินค้า จึงเชื่อว่าราคาสินค้าอุปโภคบริโภคจะลดลงได้ และผู้ผลิตยังยืนยันอีกว่า สินค้าบางรายการที่มีต้นทุนลดลงจะปรับลดราคาลงเช่นกัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เห็นด้วย และขอชมเชยหากผู้ผลิตยอมประกาศปรับลดราคาสินค้าลงมา กระทรวงพาณิชย์ก็พร้อมให้เกียรติบัตรชื่นชม
ส่วนสินค้าในกลุ่มนำเข้าวัตถุดิบที่ยังได้รับผลกระทบเรื่องต้นทุน รมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์พร้อมพิจารณาทบทวน
เช่น ผลิตภัณฑ์นม ก่อนหน้านี้ ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาผลิตภัณฑ์นมอนุมัติให้ปรับขึ้นราคาน้ำนมดิบ 3.50 บาทต่อกิโลกรัม โดยกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาต้นทุนอย่างเหมาะสม รวมถึงน้ำมันถั่วเหลืองที่ระบุว่าได้รับผลกระทบจากถั่วเหลืองที่มีราคาสูงขึ้น โดยจะเชิญกลุ่มผู้ประกอบการมาหารือกับกระทรวงพาณิชย์ต่อไป