"12 สิงหา" วันที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรักของแม่ลูก บรรยากาศอบอวลกลิ่นหอมของ "ดอกมะลิ" ลูกๆ ต่างกลับบ้าน เพื่อกราบกอดนอนหนุนตักแม่
แต่อีกมุมหนึ่ง "หัวอกแม่" ผู้สูญเสียลูกในการสละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินปลายด้ามขวานทอง กลับมีความรู้สึกปวดร้าวที่ไม่มีโอกาสได้กอดลูกอันเป็นที่รักอีกต่อไป "พิมพลักษณ์ บุญลือ" แม่ของ "หมวดตี้" ร.ต.ต.กฤตติกุล บุญลือ ที่วันนี้มีเพียง "สร้อยนาฬิการูปหัวใจ" ของขวัญวันแม่ และเสียงเพลง "อุ่นไอรัก" ของขวัญชิ้นสุดท้ายที่หมวดตี้มอบให้เป็นของขวัญวันเกิดและแทนคำขอบคุณแม่ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ไว้ดูต่างหน้า ก่อนที่เขาจะถูกยิงเสียชีวิตในวันเดียวกัน
"ปีที่แล้วเขามากราบพร้อมพวงมาลัยดอกมะลิ และสร้อยนาฬิการูปหัวใจ แม้วันนี้จะไม่มีภาพลูกชายสุดที่รักมากราบเท้าแม่อีกแล้ว แต่เขาก็ยังเป็นลูกที่น่ารักในใจแม่ตลอดไป ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยไปอีกนานแค่ไหนก็ตาม วันแม่ปีนี้จะเข้าไปบอกหมวดตี้ในห้องนอนว่า แม่ยังรักและคิดถึงเสมอ เชื่อว่าดวงวิญญาณของเขาจะรับรู้และสัมผัสได้จากสายสัมพันธ์และอานุภาพจากแม่ถึงลูก" พิมพลักษณ์กล่าวเสียงสะอื้น
แม้ 12 สิงหาคมปีนี้ จะไร้เงาบุตรชายที่ต้องมากราบเท้าแม่ทุกปี พร้อมมะลิ-มาลัยหอมชื่นใจ แต่ความเศร้าโศกก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นความภาคภูมิใจ ที่ลูกชายเสียชีวิตจากการทำหน้าที่ปกป้องประเทศ
ซึ่งถือเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่ลูกมอบให้ ทุกหยาดน้ำตาของแม่ถูกเปลี่ยนเป็นความตื้นตันและภูมิใจทุกครั้งที่เงยหน้าขึ้นมอง "พระราชหัตถเลขา" สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จากวังสวนจิตรลดา ที่พระราชทานแก่ครอบครัว และได้เก็บรักษาพระราชหัตถเลขาไว้เป็นอย่างดี จัดวางไว้เหนือหัวรูปลูกชาย ด้วยความภาคภูมิใจที่ลูกชายได้ทำหน้าที่ถวายงานแม่แห่งแผ่นดิน แม่ของปวงชนชาวไทยและแม่หลวงผู้ที่ "พิมพลักษณ์" เทิดทูนเหนือชีวิต