นุกขอโทษเป็นต้นเหตุลูกปอประตูนํ้ามอบตัว

ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ป้อ-บุญสิทธิ์ ลูกชาย “ปอ ประตูน้ำ” หนีบทีมทนายความพาเข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว
 
หลังตกเป็นผู้ต้องหาพาพวกรุมยำหนุ่มไฮโซชื่อดังจนอ่วมอรทัย ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น อ้างวันเกิดเหตุไม่ได้ไปร้านเกิดเหตุ แถมเพิ่งเคยเห็นหน้าคู่กรณีเพียงครั้งเดียว ก่อนจะใช้หลักทรัพย์เงินสด 2 แสนบาทประกันตัวไป ระบุไม่อยากพูดมาก เกรงเสียรูปคดี และส่งผลกระทบไปถึงครอบครัว เผยนอนไม่หลับทั้งคืน ก่อนตัดสินใจเข้าสู้คดี เปรยหลังเกิดเรื่อง “นุก-สุทธิดา” เมียรักที่เลิกราโทรศัพท์มาสอบถามด้วยความเป็นห่วง ด้าน “ม่ายสาว” อดีตนักร้องชื่อดัง เปิดแถลงขอโทษ รับเป็นตัวต้นเหตุทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ยันหลังเตียงหัก มีหนุ่ม ๆ เข้ามาจีบเพียบ แต่ทุกคนเป็นได้แค่เพื่อน ไม่คิดเริ่มต้นใหม่กับใครอีก

กรณีป้อ-บุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ บุตรชายนายไพจิตร ธรรมโรจน์พินิจ หรือปอ ประตูน้ำ อดีตสามี นุก-สุทธิดา ธรรมโรจน์พินิจ (เกษมสันต์ ณ อยุธยา) ดารานักร้องชื่อดัง

ถูกนายกฤษฎา หรือแจ็ค สีห์โสภณ ลูกชายอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดฯและรองปลัดกระทรวงมหาด ไทย เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น “โยไฮ” ย่านถนนประดิษฐ์มนูธรรม แจ้งความกับตำรวจ สน.วังทองหลาง ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย ซึ่งผู้เสียหายให้อ้างว่า วันเกิดเหตุขณะนั่งกับเพื่อนอยู่ในร้าน จู่ ๆ นายบุญสิทธิ์กับพวกประมาณ 20 คน ได้เข้ามาหา ก่อนเปิดฉากรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บไปตาม ๆ กัน สาเหตุน่าจะเป็นเพราะตนไปมีความสนิทสนมกับนุก-สุทธิดา ภรรยาของผู้ก่อเหตุที่เพิ่งจะแยกทางกันได้ไม่นาน ทั้งนี้หลังเกิดเหตุศาลได้อนุมัติหมายจับนายบุญสิทธิ์ 2 ข้อหา คือ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีลูกชายคนดัง เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 14 ก.ค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ หรือ “ป้อ” อายุ 29 ปี พร้อมนายอำนาจ ศักดิ์ชัชวาลย์ และนายคณิศร ฑปภูผา ทีมทนายความได้เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลาง หลังถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันกับพวกทำร้ายร่างกายนายกฤษฎา หรือ “แจ็ค” สีห์โสภณ และนายประวิทย์ บุญพรพิมล ไฮโซหนุ่มชื่อดัง โดย ป้อ-บุญสิทธิ์ มีสีหน้าเครียดและอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้เจ้าตัวปฏิเสธไม่ขอตอบคำถามใด ๆ กับผู้สื่อข่าว โดยขอให้การกับพนักงานสอบสวนก่อน เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดี แต่ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า วันเกิดเหตุตนไม่ได้เดินทางไปที่ร้านดังกล่าว อีกทั้งเพิ่งเคยพบหน้านายเเจ็ค ผู้เสียหายเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามตนยินดีที่จะตอบคำถามเรื่องครอบครัว หรือเรื่อง อื่น ๆ ที่สามารถตอบได้ แต่เรื่องคดีต้องขออนุญาตให้การกับตำรวจก่อน


ทั้งนี้ พ.ต.อ.สมิต ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ พนักงานสอบสวน เจ้าของคดี นำตัวนายป้อ พร้อมทนายความไปสอบสวน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

ก่อนจะทำบันทึกจับกุม พิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายรูปทำประวัติ ซึ่งทนายความเตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท มายื่นขอประกันตัวนายป้อออกไป พ.ต.อ.สมิต เปิดเผยว่า วันนี้นายป้อได้เดินทางเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนเนื่องจากถูกออกหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินไปตามขั้นตอน เบื้องต้นพนักงานสอบ สวนได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายป้อ 2 ข้อหา คือทำร้ายผู้อื่นทำให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายถึงสาหัส และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ให้การปฏิเสธตลอดทุกข้อกล่าวหา อีกทั้งนายป้อมีสิทธิที่จะได้รับประกันตัว เนื่องจากดูพฤติการณ์แล้วไม่ได้มีเจตนาจะหลบหนี ตามกฎหมายแล้วคดีนี้จะต้องใช้หลักทรัพย์เงินสดในการประกันตัวจำนวน 200,000 บาท

ด้าน พ.ต.ท.ประพจน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนนายป้อ ขอใช้สิทธิไม่ให้การใด ๆ เกี่ยวกับรูปคดี

ซึ่งทางเจ้าตัวแจ้งว่าจะให้ทนายความเตรียมเอกสารคำให้การมามอบให้กับ พนักงานสอบสวนในวันที่ 19 ก.ค. หลังจากนี้ตนก็จะส่งลายนิ้วมือไปที่กองทะเบียนประวัติ เพื่อทำการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา จาก นั้นจะให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ก่อนรวบรวมสำนวนคดีส่งฟ้องให้กับพนักงานอัยการต่อไปในวันที่ 31 ก.ค. ต่อไป

ต่อมาเวลา 14.30 น. หลังได้รับการประกันตัว ป้อ-บุญสิทธิ์ เปิดเผยว่า เรื่องคดีตนยังไม่ขอพูดเนื่องจากยังให้การกับเจ้าหน้าที่ไม่ เสร็จสิ้น

ขอกลับไปรวบรวมพยานหลักฐานเสียก่อน เกรงว่าจะเสียรูปคดี ทั้งนี้ก่อนที่จะเดินทางมามอบตัว เมื่อคืนที่ผ่านมาตนยังไม่ได้นอนพักผ่อนเลย ไม่อยากจะชี้แจงอะไร กลัวกระทบกับครอบครัว เนื่องจากลูกคนโตเริ่มที่จะรู้เรื่องแล้ว

“ส่วนเรื่องนุกผมซีเรียสหรือไม่นั้น บอกได้ว่าซีเรียสนะ แต่ผมเป็นลูกผู้ชายการง้อเมียนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าผมรักใคร ผมก็จะง้อ ผมรักนุกมากที่สุด ถึงแม้เราจะหย่าขาดกันแล้ว เราก็ยังรักกันได้ เพราะนุกเป็นแม่ของลูกผม ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เจอกับนุกมากนัก จะเจอบ้างก็ช่วงไปรับลูกมาเลี้ยง หลังเกิดเหตุนุกโทรฯมา ถามด้วยความเป็นห่วง แต่ไม่ได้คุยกันเรื่องคดี ส่วนใหญ่จะคุยกันเรื่องอาการป่วยของลูกชายคนโตเท่านั้น”

ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ บ่ายวันเดียวกัน นุก-สุทธิดา เปิดแถลงข่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนักว่า ตนรู้สึกผิดที่ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน

เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น รู้สึกว่าเป็นต้นเหตุ ทำให้คนอื่นได้รับผลกระทบ ไม่เฉพาะคนที่ได้รับบาดเจ็บเพียงคนเดียว แต่ ยังมีดาราคนอื่น ๆ ที่ถูกพาดพิง อยากขอโทษเพราะรู้สึกผิดจริง ๆ อย่างไรก็ตามตนไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร เป็นเพราะสามีตนหึงหวงหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ ทั้งนี้หลังเกิดเรื่องบรรดาเพื่อน ๆ ไม่มีใครกล้ามาเจอหน้าแล้ว คงจะกลัวหลังทราบข่าวที่เกิดขึ้น

ถามว่าเรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับนุกหรือไม่ อดีตนักร้องดังกล่าวว่า “กระทบมาก

หลังจากเลิกกับป้อนุกไม่ได้คิดจะยุ่งกับใคร แจ็คเองอยู่ในฐานะเพื่อน และยังมีเพื่อนอีกหลายคน ซึ่งก็มีบ้างที่บางคนเข้ามาจีบ แต่ไม่ได้คิดอะไรเกินเลย คิดเพียงเป็นเพื่อนกันเท่านั้น อีกอย่างเลิกกับป้อมาก็ไม่คิดจะเริ่มต้นใหม่ ไม่มีเรื่องพวกนี้อยู่ในสมองเลย อย่างไรก็ตามเมื่อเช้านุกโทรฯ หาป้อก่อนที่จะไปพบตำรวจ แต่ป้อไม่รับสายจึงส่งข้อความไปว่า “ส่งข่าวหน่อยเป็นห่วง” เชื่อว่าสามียังรักนุกอยู่ ส่วนนุกบอกตรง ๆ ว่าก็ยังเป็นห่วงสามีมาก”.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์