วันนี้(19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. นายอภิเชษฐ์ สถาพรอมรวุฒิ เจ้าหน้าที่สำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อายุ 43 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 22 ม.2 ต.บางชะนี อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตนเองใช้โทรศัพท์มือถือระบบทรูมูฟ มากว่า 1 ปี เดิมใช้ระบบจ่ายรายเดือน ต่อมาเปลี่ยนเป็นระบบเติมเงิน โดยก่อนหน้านี้ใช้มาได้ดีปกติ แต่ในวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โทรศัพท์ตนมีเงินเหลืออยู่ 2 บาท จึงไปเติมเงินด้วยระบบออนไลน์ จำนวน 20 บาท ซึ่งครั้งแรกไม่สามารถเติมเงินได้ จากนั้นก็พยายามเติมใหม่ครั้งที่ 2 ก็ยังเติมไม่ได้อีก จึงโทรศัพท์ติดต่อไปยังศูนย์บริการ ทว่าโทรไม่ได้ จากนั้นได้กดโทรศัพท์เช็คยอดเงิน ปรากฏว่า มีข้อความเข้ามาระบุว่า "True Move credit 42,949,644 bath 01 satang Valid until" ทำให้ตนรู้สึกแปลกใจมากว่าทำไมถึงมีเงินเข้ามามากถึงขนาดนี้ อีกทั้งยังกลัวว่าเงินดังกล่าวจะเป็นเงินของขบวนการค้ายาเสพติด จึงพยายามติดต่อศูนย์บริการอย่างรวดเร็ว
นายอภิเชษฐ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น 3 วัน โทรศัพท์ก็ไม่สามารถโทรออกหรือโทรเข้าได้
ซึ่งตนก็โทรไปสอบถามที่ศูนย์ให้บริการของระบบดังกล่าว แต่ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าทางบริษัทฯ จะทำการตรวจสอบภายใน 48 ชั่วโมง โดยห้ามใช้งาน โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะเป็นผู้ใช้บริการต้องรออีก 2 วันไม่สามารถใช้โทรศัพท์มือถือได้
ด้านนายสุภาสน์ ศรีสวัสดิ์ ผู้จัดการโทรศัพท์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บริษัท ที โอ ที จำกัด มหาชน
เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดจากการขัดข้องของตัวซอฟแวร์ที่ให้บริการเติมเงินระบบออนไลน์ ซึ่งครั้งนี้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เนื่องจากก่อนหน้านี้มีลูกค้าโทรฯ เข้ามาร้องเรียนในลักษณะเดียวกันหลายราย แต่กรณีดังกล่าวน่าจะเกิดจากการออกโปรโมชั่นของผู้ให้บริการโทรศัพท์ ที่ทำให้ระบบและสัญญาณมีปัญหา.