รถร่วมยอมลดค่าโดยสาร เตรียมอุทธรณ์ศาลปกครอง

วันนี้ (28 พ.ค.)  นายฉัตรชัย ชัยวิเศษ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมเอกชน กล่าวว่า

รถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือรถร่วม รถมินิบัส รถสองแถวในซอย กว่า 12,000 คัน ได้รับความเดือดร้อนอย่างมากหลังจากศาลปกครองกลาง มีคำสั่งทุเลาการปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วม ขสมก. รถมินิบัส และรถสองแถวในซอย ทั้งนี้ ยืนยันว่า มีรถร่วม ขสมก.ที่ติดก๊าซเอ็นจีวี เพียง 1,700 คันเท่านั้น หากไม่ได้รับอนุญาตให้มีการปรับราคาค่าโดยสาร จะวิ่งรับส่งผู้โดยสารเฉพาะช่วงเช้าและเย็น ในส่วนช่วงกลางวันอาจหยุดวิ่งไปโดยปริยาย 
 

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ขณะนี้ สมาคมฯ อยู่ระหว่างการหารือกับทนายเพื่อยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองด่วนที่สุด เนื่องจากศาลจะให้เวลาประมาณ 30 วัน
 

นางยุพิน บำเรอรุง พนักงานจำหน่ายตั๋วโดยสารบนรถร่วมบริการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) หรือรถร่วม กล่าวว่า ตั้งแต่เปิดให้บริการในช่วงเช้าวันนี้ ทางบริษัทฯได้แจ้งกับพนักงานจำหน่ายตั๋วทุกคนให้เก็บอัตราค่าโดยสารตามเดิม ที่ราคา 8.50 บาท สำหรับรถร้อนร่วมบริการ จากเดิมที่เก็บอัตราค่าโดยสาร 10 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากศาลปกครองกลาง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามปรับขึ้นราคาค่าโดยสาร หากฝ่าฝืนและมีผู้โดยสารร้องเรียน จะถูกระงับการเดินรถทันที 
 

ด้านนางสุนันท์ ทองพิกุล ผู้ใช้บริการรถร่วม ขสมก. กล่าวว่า ในวันนี้ อัตราค่าโดยสารปรับลดลงเท่าเดิมแล้ว แต่ยังคงประสบปัญหาต้องรอรถเป็นเวลานาน ทำให้ต้องเผื่อเวลาในการเดินทางเพิ่มขึ้นเกือบ 1 ชั่วโมง
 
 

นางสุภาพ เกาะพระวิหาร นายท่าประจำรถโดยสารรถร่วมบริการ ขสมก. กล่าวว่า ปัญหาที่ทำให้รถโดยสารออกบริการล่าช้า เนื่องจากต้องรอเข้าคิวเติมก๊าซเอ็นจีวีที่มีเพียงปั๊มเดียวที่รถร่วมบริการสามารถใช้ได้ ทำให้ต้องเสียเวลากับการเติมเชื้อเพลิงเกือบ 1 ชั่วโมงต่อครั้ง ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลหามาตรการแก้ไขปัญหาปั๊มเอ็นจีวีให้เพียงพอกับรถที่ใช้ เพื่อจะได้ไม่ต้องรับผลกระทบทั้งผู้ให้บริการ และประชาชนที่ใช้บริการ 

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์