จนท.กรมศิลป์เริ่มบูรณะแล้วเทวรูปพนมรุ้ง

ด้านนางสาวศักดิ์ศรี เบญจลักษณ์ นายช่างศิลปกรรม 6 อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง เปิดเผยว่า

การจะซ่อมแซมเทวรูปองค์ที่ได้รับความเสียหายน้อยก่อน และจะซ่อมแซมเทวรูปที่เสียหายมาก ส่วนที่เป็นปัญหาอุปสรรคอยู่ในขณะนี้คือฝนตก เพราะวัสดุจำพวกกาวต่อหินต้องทำในขณะที่ไม่มีความชื้น เพราะเกรงว่ากาวที่ใช้เชื่อมต่อส่วนที่แตกหักของเทวรูปจะไม่คงทน แต่ก็เชื่อว่าน่าจะแล้วเสร็จก่อน 30 วันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม การซ่อมแซมนั้นอาจจะไม่เหมือนของเดิม 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะการเชื่อมต่อต้องมีร่องรอยตำหนิให้เห็นบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

ขณะที่นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า

ขณะนี้ตนสั่งการให้เจ้าหน้า ที่จัดทำแม่พิมพ์สำหรับหล่อพิมพ์พญา นาคโคนนทิ และทวารบาล เพื่อซ่อมแซมในส่วนที่ถูกทำลายแล้ว พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ทางอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ดำเนินการหาฤกษ์ประกอบพิธีบวงสรวง คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ต้นเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งตนขอยืนยันว่า การบวงสรวงเป็นการขออนุญาตสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เป็นพิธีแก้อาถรรพณ์แต่อย่างใด

สำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดบริเวณอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง และอุทยานประวัติศาสตร์อีก 10 แห่ง ขณะนี้กำลังพิจารณาความเหมาะสม

เพราะต้องคำนึงถึงงบประมาณและการบำรุงรักษา ภายหลังติดตั้งกล้องวงจรปิดด้วย ส่วนการซ่อมแซมนั้น กรมศิลปากรจะยึดตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง โดยจะไม่มีการเสริมแต่งอย่างใด เพราะอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งเป็นโบราณสถานอีกแห่งที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่จะ เสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกต่อองค์การยูเนสโก นอกจากนี้ ตนอยากขอร้องว่า ไม่ควรมีการจัดพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลตามโบราณสถาน แม้ว่าจะไม่มีข้อห้ามไว้ในกฎหมาย แต่การประกอบพิธีปลุกเสกจะเป็นการรบกวนนักท่องเที่ยว และอาจทำลายโบราณสถานได้

ส่วนกรณีประเทศกัมพูชาเสนอขอขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกนั้น อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า

เรื่องนี้เป็นสิทธิของทางการกัมพูชาที่จะเสนอขึ้นทะเบียน เฉพาะองค์ปราสาทเขาพระวิหาร เพราะขั้นตอนต่อไปคณะกรรมการของยูเนสโกจะพิจารณาว่าปราสาทเขาพระวิหารมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เข้าเกณฑ์เป็นมรดกโลกหรือไม่ เนื่องจากกรมศิลปากรได้ทำรายงานเสนอไปแล้วว่า หากมีการเสนอให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ส่วนประกอบทั้งหมดในบริเวณเขาพระวิหารควรได้รับการยกย่องเป็นมรดกโลกด้วย เพราะบันได และชั้นต่าง ๆ โดยรอบองค์ปราสาทมีความเกี่ยวข้องกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งหมด

ทางด้าน พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้า

การติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่บุกทุบทำลายโบราณวัตถุปราสาทหินพนมรุ้งว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปประเด็นคนร้ายที่ก่อเหตุที่ชัดเจนได้ แต่ประเด็นน้ำหนักเรื่องการทำพิธีไสยศาสตร์ก็ยังไม่ตัดทิ้ง วันนี้ได้เรียกตำรวจจากทั้ง 35 สถานี มาประชุมกำชับให้เข้มงวดกับสถานโบราณวัตถุ วัด และแหล่งท่องเที่ยว ในทุกพื้นที่ เพื่อป้องกันการก่อเหตุทุบทำลายเหมือนปราสาทเขาพนมรุ้ง

“ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนว่า คนร้ายอาจจะเป็นคนของปราสาทพนมรุ้ง ที่รู้เห็นการกระทำดังกล่าวของพวกทำไสยศาสตร์ เพราะได้จำลองเหตุการณ์ตามจุดเกิดเหตุทุกจุด ต้องใช้เวลารวมทั้งพิธีขอขมาก่อนทำลายไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง โดยเฉพาะบนปราสาทยามดึก หากมีการทำพิธีและทุบทำลายย่อมมีเสียงดังก้องกังวาน แต่ยามกลับไม่ได้ยิน ขณะนี้ได้เร่งการสอบสวนยามในวันเกิดเหตุ และน่าจะมีผู้รู้เห็นกับผู้ก่อเหตุไม่ต่ำกว่า 5 คน ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่สายสืบได้ลงประกบ ผู้ต้องสงสัยแล้ว เชื่อว่า จะสามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ในไม่ช้า ขณะนี้ผู้บังคับบัญชาได้พุ่งเป้าในการสอบสวนไปที่ผู้มีอิทธิพล ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว” พ.ต.อ.วิชัย กล่าว.