ฤทธิพายุนาร์กีส 288ชีวิตติดเกาะ

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 3 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พล.ร.ท.สุพจน์ พฤกษา ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 (ภูเก็ต) ว่า ทางทัพเรือภาค 3 ได้รับการประสานงานจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ต.เกาะพระทอง อ.คุระบุรี จ.พังงา ให้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ติดลมพายุอยู่ที่หมู่เกาะสุรินทร์ไม่สามารถเดินทางกลับเข้าฝั่งได้ เนื่องจากคลื่นลมทะเลแรงมาก หลังทราบเรื่องได้ส่งเรือรบหลวงทะยานชล ที่มีภารกิจลาดตระเวนรักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่าออกไปช่วยเหลือแล้ว

นายสมเกียรติ หลวงบำรุง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ กล่าวว่า

นักท่องเที่ยวที่ติดเกาะส่วนใหญ่เป็นคนไทยและเป็นชาวต่างชาติจำนวนหนึ่ง รวมทั้งสิ้น 288 คน ทั้งหมดเดินทางไปท่องเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. และมีกำหนดกลับวันที่ 2 พ.ค. แต่เนื่องจากคลื่นลมแรงเรือที่บรรทุกนักท่องเที่ยวเป็นเรือขนาดเล็กไม่สามารถออกจากเกาะสุรินทร์ได้ จึงประสานไปยังทัพเรือภาค 3 ขอความช่วยเหลือ และเรือหลวงทะยานชลได้เข้าไปรับนักท่องเที่ยวออกจากเกาะสุรินทร์ด้วยความปลอดภัย

เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น.
 
และคาดว่าจะนำนักท่องเที่ยวมาถ่ายลงเรือเล็กนำขึ้นฝั่งที่ท่าเทียบเรืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ บ้านหินลาด อ.คุระบุรี ในเวลา 18.00 น. วันเดียวกันด้านนายมนต์ชัย สุขมูล หัวหน้าสถานีอุตุนิยมวิทยาพังงา เปิดเผยว่า สำหรับพื้นที่จังหวัดพังงาได้รับผลกระทบจากอิทธิพลพายุไซโคลน “นาร์กีส” ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศพม่า จึงมีผลกระทบต่อสภาวะอากาศในพื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน มีระดับความสูงของคลื่นประมาณ 2-3 เมตร ลมแรงและมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ โดยบริเวณที่มีฝนตกฟ้าคะนองระดับความสูงของคลื่นจะมากกว่า 3 เมตร จึงขอให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วง 2-3 วันนี้

ขณะที่นายทวีวัฒน์ นิลเพชรรัตน์ หัวหน้าเวรพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยถึงสถานการณ์พายุไซโคลน “นาร์กีส” ว่า

จะเคลื่อนเข้าแนวจังหวัดแม่ฮ่องสอนในคืนวันที่ 3 พ.ค. ส่งผลกระทบให้ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกชุกหนาแน่นต่อเนื่องถึงวันที่ 5 พ.ค. อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ตาก ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิจิตร พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ระนอง จันทบุรี และตราด ผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวต้องระวังภัยที่จะเกิดขึ้นและผู้ที่อาศัยอยู่ที่ลาดเชิงเขาควรระมัดระวังดินโคลนถล่มไว้ด้วย นอกจากนี้ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง คลื่นสูงมากกว่า 2-3 เมตร ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 3-5 พ.ค.
 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ว่ากรมอุตุนิยมวิทยาของพม่าแถลงว่า
 
พายุไซโคลน “นาร์กีส” มีความเร็วลม 190 กม./ชม. ซัดถล่มย่างกุ้งและบาสเซน อยู่แถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิระวดี เมื่อเช้าตรู่วันที่ 3 พ.ค. ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะจู่โจมบังกลาเทศก่อนตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค. แต่ก็เปลี่ยนทิศทางลมมาที่พม่าแทน ความรุนแรงของนาร์กีส พัดหลังคาบ้านเรือนปลิวว่อน ต้นไม้และเสาไฟฟ้าหักโค่น ไฟฟ้าดับทั่วเมือง ผลพวงความรุนแรงของพายุยังส่งผลกระทบต่อระบบคมนาคมขนส่งและการสื่อสารในย่างกุ้งด้วย โดยรถโดยสารและรถไฟหยุดบริการเพราะเกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ของเมือง เครื่องบินขาเข้าที่สนามบินนานาชาติย่างกุ้ง ต้องเลี่ยงไปลงจอดที่มัณฑะเลย์แทน ส่วนเที่ยวบินขาออกก็ถูกยกเลิกทั้งหมด

อย่างไรก็ดี

ได้มีผู้เสียชีวิตเป็นหญิงจมน้ำตาย 3 ศพ ขณะพยายามข้ามแม่น้ำย่างกุ้งแต่เรือเกิดล่ม ทั้งนี้ กรมอุตุฯของพม่าคาดว่าพายุนาร์กีสจะมุ่งหน้าไปด้านตะวันออกเฉียงเหนือของย่างกุ้ง และข้ามเข้าสู่ภาคเหนือของไทยในอีก 24 ชม. ข้างหน้าด้วย