ลอดโบสถ์ ฮิตกระฉูด วัน5พันคน

พิธีลอดโบสถ์ วัดดงสระแก้ว เมืองลับแล กลายเป็นของฮิตติดลมบน

คนแห่ไปลอดกันอย่างคึกคักวันละร่วม 5 พันคน ด้วยความเชื่อสามารถรักษาโรคได้ รวมทั้งขอพรได้ดังใจ จนเงินทำบุญเข้าวัดพุ่งกระฉูดวันละกว่าแสนบาท เจ้าอาวาสวอนอย่าขูดโบสถ์หาเลขเด็ด เดี๋ยวโบสถ์ไม้สักเก่าแก่จะสึกหมด ทั้งเตือนเองอย่าไปเชื่อลอดโบสถ์แล้วจะรักษาโรคได้ เพราะโบสถ์ไม่ใช่หมอ สั่งขยายเลนลอดโบสถ์จาก 2 เป็น 7 เพื่อรองรับคลื่นคน เช่นเดียวกับต้องตั้งโรงทานไว้บริการผู้มีจิตศรัทธาที่ดั้นด้นมา

จากกรณีชาวบ้านแห่ไปลอดใต้ฐานอุโบสถวัดดงสระแก้ว บ้านดงสระแก้ว ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์

โดยเชื่อว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ต่อดวงชะตา ใครมีโรคภัยไข้เจ็บก็จะหาย และใครตั้งจิตอธิษฐานขอพรอันใดก็จะได้รับความสมหวัง ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดดงสระแก้ว บ้านดงสระแก้ว ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ติดถนนสายดงสระแก้ว-ไผ่ล้อม ยังคงมีชาวบ้านจากทั่วสารทิศแห่กันมาลอดใต้ฐานอุโบสถไม้สักทองอายุเกือบ 100 ปี ด้วยจำนวนคนเกือบ 5,000 คน โดยเป็นทั้งชาวบ้านใน จ.อุตรดิตถ์เองและจังหวัดอื่น ทางวัดได้ตั้งโรงทานบริการอาหารประเภทข้าวต้มแก่ผู้มาเยือนที่มาเข้าพิธีลอดอุโบสถเพื่อสะเดาะเคราะห์และขอพร และมีการปรับปรุงขยายเต็นท์ให้กว้างขึ้น เพื่อบริการดอกไม้ธูปเทียน หมากพลู และน้ำ หรือขันธ์ 5 เพื่อนำไปถวายพระ พร้อมกันนี้นำเสื่อมาปูใต้ถุนอุโบสถเพิ่มเป็น 7 ช่อง จากเดิมที่มีแค่ 2 ช่อง เพื่อรองรับผู้มีจิตศรัทธามาเข้าพิธีลอดอุโบสถ ซึ่งนับจากเป็นข่าวฮือฮาขึ้นมา ผู้คนก็แห่กันมาที่วัดอย่างเนืองแน่น ส่งผลให้มีเงินเข้าวัดวันละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท

นางสายรุ้ง ธาดาจันทร์ ผอ.สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า

ทราบข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่ชาวบ้านแห่กันมาลอดโบสถ์ ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมและเข้านมัสการเจ้าอาวาสวัดดงสระแก้ว สอบถามทางวัดและทางคณะกรรมการวัดถึงความเป็นมาเกี่ยวกับการลอดโบสถ์ ได้คำตอบว่า เกิดจากความเชื่อของชาวบ้านว่า ถ้าลอดและอธิษฐานด้วยก็จะหายจากการเจ็บป่วยหรือเบาบางลง หนี้สินที่มีอยู่ก็จะหลุดพ้น หน้าที่การงานก็จะดีขึ้น ซึ่งในความเชื่อนี้ถือว่า เป็นวัฒนธรรมแขนงหนึ่งเหมือนกัน แต่เป็นไปในด้านความศรัทธาของประชาชน เมื่อได้ทำแล้วอาจจะมีความสุข ทั้งนี้อยู่ที่พื้นฐานว่า ความเชื่อนั้นได้สร้างความเดือดร้อนให้หรือไม่ และมีการออกนอกลู่นอกทางวัฒนธรรมประเพณีของคนไทยหรือไม่ ถ้าไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใคร ก็ถือว่าเราเคารพในความเชื่อของคน

"เมื่อได้สังเกตภายในวัดแล้วปรากฏว่า ทางวัดไม่ได้มีการประกาศโฆษณาชวนเชื่อแต่อย่างใด ก็รู้สึกดีใจที่ชาวบ้านหันหน้าเข้าวัดกันมากขึ้น แต่ก็อยากฝากให้ทางวัดได้หาโอกาสจัดกิจกรรมเกี่ยวกับธรรมะหรือแสดงเทศนาธรรม ก่อนถึงจุดอิ่มตัว ด้วยการใช้หลักของพระพุทธศาสนาสอนญาติโยมมิให้หลงเชื่อหรืองมงายต่อสิ่งที่พบเห็น ถ้าจะเชื่อก็ขอให้เชื่ออย่างมีเหตุมีผลตามแนวทางของพุทธศาสนา" นางสายรุ้งกล่าว

นางสายรุ้งกล่าวอีกว่า สำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นตามมานั้น ในช่วงแรกรายรับต่อวันเป็นเพียงแค่หลักพัน

ในเวลาต่อมาเป็นหลักหมื่นและแสน ซึ่งทางวัดก็ชี้แจงว่ามีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาดูแลและร่วมกันรับผิดชอบในเรื่องของการรักษาผลประโยชน์ของทางวัด ด้วยการนำเงินไปฝากธนาคารอย่างถูกระบบ ถือได้ว่าเป็นขั้นตอนการดำเนินการที่ถูกต้อง แต่การจะนำเงินออกไปใช้เกี่ยวกับเรื่องใดนั้น อยากให้มีการสอบถามหรือปรึกษากับชาวบ้านในหมู่บ้านด้วยว่า จะนำเงินนี้ซึ่งเป็นเงินของส่วนรวมไปพัฒนาวัดอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด ทางสำนักงานวัฒนธรรมเองจะคอยติดตามดูในเรื่องต่างๆ ของวัดต่อไป หากเห็นในสิ่งที่ไม่ดี ก็จะรีบเข้าไปดำเนินการทักท้วงในทันที

ด้านนายสนั่น อ่ำเมือง ผญบ.หมู่ที่ 4 ต.ดงสระแก้ว ประธานคณะกรรมการดูแลรักษาผลประโยชน์วัดดงสระแก้ว กล่าวว่า

นับตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ ทางวัดมีรายได้จากการทำบุญเพียงแค่วันละไม่กี่พันบาท หลังจากข่าวการลอดโบสถ์ถูกตีแผ่ออกไป ก็มีชาวบ้านแห่มากันมากยิ่งขึ้น และได้ร่วมทำบุญกับทางวัดเป็นค่าดอกไม้ธูปเทียน หมากพลูและน้ำถวายพระพุทธรูปประจำวัดและพระแม่ธรณีที่ดูแลโบสถ์ ล่าสุดในช่วงสัปดาห์นี้จนถึงวันหวยออกตกวันละประมาณ 140,000-150,000 บาท ทางวัดและทางคณะกรรมการวัดได้ปรึกษาและมีความเห็นชอบว่า เงินจากรายได้ทั้งหมดจะนำมาพัฒนาวัดด้วยการเทปูนรอบตัวโบสถ์ บูรณะหน้าบันโบสถ์ซึ่งชำรุดหักหรือไม่สวยงาม จัดทำให้เกิดความสวยงามคงเดิม

ส่วนพระครูปภากรสิทธิคุณ เจ้าคณะตำบลไผ่ล้อม เจ้าอาวาสวัดดงสระแก้ว กล่าวว่า
 
ทางวัดได้มีการตั้งโรงทานจัดเลี้ยงญาติโยมทั้งบ้านใกล้และไกลที่เข้าคิวลอดโบสถ์ ที่ในระหว่างเดินทางยังไม่ได้ทานข้าวมา เมื่อมาถึงที่วัดก็สามารถหาอาหารทานได้ทันที ในหมู่บ้านอาหารประเภทตามสั่งหารับประทานกันยากมาก เนื่องจากไม่มีร้านอาหารไว้คอยบริการเพราะอยู่ไกลความเจริญ หวั่นว่าจะทนหิวไม่ไหว ได้จัดทำข้าวต้มเลี้ยงในมื้อเช้า กลางวัน และอาจจะเพิ่มรอบเย็นให้ ในบางมื้ออาจจะสลับกับข้าวสวยและแกงหม้อ

เจ้าคณะตำบล กล่าวต่อว่า พิธีการลอดใต้อุโบสถนั้นทางวัดไม่ได้กำหนดระยะเวลาเปิดปิดให้เป็นที่แน่นอน แต่ก็มีญาติโยมแห่มาลอดกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงเวลาพลบค่ำ

แต่ปัจจุบันนี้แห่กันมาแต่เช้ามืดและหมดคนในช่วงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ทั้งที่ทางวัดปิดไฟฟ้าแล้วก็ยังมาทำการลอดอุโบสถกันอีก คงจะต้องปรึกษากับทางคณะกรรมการวัดว่า จะหามาตรการในเรื่องของเวลาอย่างไรดี เนื่องจากหวั่นกลัวมิจฉาชีพจะถือโอกาสย่องแอบเข้ามาภายในวัดและฉกฉวยเอาทรัพย์สินของวัดไป เงินรายได้ของวัดนั้น มอบหมายให้ทางคณะกรรมการวัดเป็นผู้ดูแลรักษาผลประโยชน์ร่วมกัน

"อยากเน้นย้ำให้ญาติโยมที่เข้ามาทำพิธีอย่าได้หลงเชื่อคำพูดจากที่คนอื่นบอกเล่าทั้งหมด เพราะการบอกเล่าอาจจะมีสิ่งอะไรแอบแฝงอยู่ทั้งที่จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง อยากให้ใช้สติปัญญาพิจารณาดูกัน อย่าไปเชื่อว่าโบสถ์จะรักษาโรคได้ เพราะโบสถ์ไม่ใช่โรงพยาบาลและก็ไม่ใช่หมอ เราเป็นชาวพุทธไม่ควรหลงเชื่อคำงมงาย ให้ยึดถือเอาหลักคำสอนของพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ และการลอดโบสถ์ก็ไม่ควรที่จะไปทำการขูดหาเลขเพื่อต้องการจะถูกหวย เพราะจะทำให้บานไม้สักทองของโบสถ์ชำรุดและสึกเสียหาย อยากลอดโบสถ์ก็ลอดไปแต่อย่าไปทำลาย" พระครู ปภากรสิทธิคุณ กล่าว