วอนช่วยเหลือเด็กหญิงมีใบหูข้างเดียว

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนางน้ำฝน รุ่งวาริน อายุ 40 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ว่า มีเด็กหญิงพิการไม่มีรูหู นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนเมืองสุพรรณ ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี และบางวันไม่มีเงินไปโรงเรียนแม้แต่บาทเดียว จึงวอนผู้ใจบุญช่วยบริจาคเงินเป็นค่าพยาบาลรักษา จึงเดินทางไปตรวจสอบ ทราบชื่อ ด.ญ.นิศาชล อิ่มแผ้ว อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 มีร่างกายพิการ เนื่องจากมีหูด้านขวาใช้รับฟังเพียงข้างเดียว ส่วนด้านซ้ายใบหูบี้แบนและไม่มีรูหู ปัจจุบันอาศัยอยู่กับนายเฟื่อง อายุ 58 ปี ปู่และนางไล้ อิ่มแผ้ว อายุ 55 ปี ย่า ที่บ้านเลขที่ 466 หมู่ 16 ต.ตลิ่งชัน
 
ด.ญ.นิศาชล กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเกิดมายังไม่เคยเห็นหน้าแม่แม้แต่ครั้งเดียว เพราะพ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก

ส่วนพ่อคือนายการเวก อิ่มแผ้ว ทิ้งแม่ไปมีเมียใหม่ นาน ๆ ถึงจะกลับมาหาสักครั้ง แต่ก็ไม่ได้ให้เงินให้ทองอะไร และต้องอาศัยอยู่กับปู่และย่าแบบอด ๆ อยาก ๆ เนื่องจากปู่และย่าทำงานหาเช้ากินค่ำไปวัน ๆ บางวันไม่มีเงินแม้แต่ค่าขนมไปกินโรงเรียน ต้องอาศัยเพื่อน ๆ ที่สงสาร ซื้อให้กิน ส่วนใบหูมีข้างเดียวมาตั้งแต่กำเนิด ในตอนเด็ก ๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่พอโตขึ้นรู้สึกอายเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน เนื่องจากถูกเพื่อนบางคนล้อเลียนเป็นประจำว่าหูบี้ ทำให้รู้สึกน้อยใจว่า นอกจากจะเกิดมาไม่มีพ่อแม่แล้วร่างกายยังพิการ จึงวอนผู้ใจบุญช่วยรักษาหูข้างซ้าย เนื่องจากได้ยินข้างเดียว แล้วหนูจะไม่ลืมพระคุณ และถ้ามีโอกาสตอบแทนบุญคุณ จะขอตอบแทนทันที
 
ด.ญ.นิศาชล กล่าวต่อว่า สงสารปู่และย่ามาก

เนื่องจากต้องหาเงินส่งเรียนหนังสือ ตนช่วยได้เพียงแค่หุงข้าว ทำอาหาร ทำความสะอาดบ้านและช่วยเลี้ยงหลานอายุ 6 ขวบ กับ 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของน้าสาว อีก 2 คน ที่นำมาให้ปู่กับย่าเลี้ยง แต่สิ่งที่หนูต้องการมากที่สุดตอนนี้คืออยากรักษาหูให้หายเป็นปกติ และอยากเรียนสูง ๆ เมื่อจบแล้วจะได้มีงานทำ หาเงินมาเลี้ยงดูปู่กับย่า โดยอยากเป็นครูมากที่สุด จะได้นำความรู้มาสอนเด็กด้อยโอกาส.