เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. สำนักข่าวต่างประเทศ ได้รายงาน โดยอ้างสำนักข่าวส่วนกลางของอินเดียว่า
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังไปช่วยเหลือหญิงชาวบ้านคนหนึ่ง ในหมู่บ้านกุมาเรีย รัฐพิหาร ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างยากจนแร้นแค้น หลังจากนักข่าวคนหนึ่งไปประสบเหตุ แล้วบันทึกภาพเหตุการณ์ชาวบ้านช่วยกันจับมัดตัวนางสุนิตา เทวี อายุ 50 ปี ผูกติดกับต้นไม้เพื่อไม่ให้ดิ้นหลุดหนีไปไหน เนื่องจากเชื่อว่าเป็นแม่มด ใช้คาถาอาคมร่ายเวทมนตร์สิ่งอัปมงคลชั่วร้ายให้ชาวบ้าน จากนั้น พากันรุมทำร้าย ทุบตี เฆี่ยนโบยอย่างไร้ความปรานี ทั้งที่เหยื่อร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวดทรมาน ยืนยันว่าตัวเองบริสุทธิ์
เมื่อไปถึงพบร่างนางสุนิตา เทวี อยู่ในสภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิง
ถูกกล้อนผมทิ้งไปบางส่วน เนื้อตัวมีบาดแผลเป็นริ้วรอยฟกช้ำจากการถูกเฆี่ยนตีหลายแห่ง แต่ไม่ถึงขั้นสาหัส เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย และจับผู้ก่อเหตุไว้ได้ 6 คน หนึ่งในนั้นชื่อนายราม อโยธยา อ้างว่าเป็นคนว่าจ้างให้นางสุนิตาบริกรรมคาถาช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยของภรรยาตัวเอง แต่ปรากฏว่าอาการของภรรยากลับทรุดหนักลงกว่าเดิม น่าเชื่อว่านางสุนิตาจะเสกเป่ามนต์ดำใส่ร้าย จึงเรียกร้องให้ชาวบ้านช่วยกันมัดตัวเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวนายรามดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น หากศาลตัดสินลงโทษ อาจถูกจำคุกสูงสุดเป็นเวลา 7 ปี
ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคม เปิดเผยว่า
ในประเทศอินเดียมีพลเมืองจำนวนไม่น้อยที่ถูกคนอินเดียด้วยกันเอง โดยเฉพาะตามชนบท พื้นที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ลงทัณฑ์ด้วยการลงไม้ลงมือ พิพากษากันตามความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อภินิหารลี้ลับ บางรายถึงขั้นเสียชีวิตเพราะถูกสังคมมองว่าเป็นแม่มดหมอผี เสก “มนต์ดำ” นับเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่รัฐบาลยังแก้ไม่ตก
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา สตรีนางหนึ่งในรัฐชาตติการ์ก็ได้รับเคราะห์กรรมทำนองเดียวกัน
เนื่องจากชาวบ้านเชื่อว่าเป็นแม่มดหมอผี ลากตัวออกจากบ้านไปทรมานด้วยการรุมทำร้าย แล้วใช้เหล็กร้อนนาบตามตัว ก่อนจะผลักร่างลงกองเพลิงให้ไฟเผาคลอกจนเสียชีวิต ในขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา แม่ถูกลูกชายและลูกสาวช่วยกันใช้ขวานสับจนเสียชีวิตในรัฐเบงกอล ภาคตะวันออกของอินเดีย เพียงเพราะเชื่อว่า แม่แท้ๆของตัวเองมีคาถามนต์ดำ จนทำให้ คนในครอบครัวทยอยกันล้มป่วยไปตามๆกัน