หนุ่มนิรนามถูกฆ่าปาดคอ-แทงอกพรุน 21 แผล ก่อนจับโยนคลองแสนแสบ พบคราบเลือดรอยรองเท้าชาย-หญิงริมตลิ่ง ตร.คาดถูกอริลวงมาฆ่าล้างแค้น รอตรวจซิมมือถือคนตายหาเบาะแส
เหตุพบหนุ่มนิรนามถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมโยนศพทิ้งคลองแสนแสบรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มีนาคม
พ.ต.ท.โกเมน สุภาพ สารวัตรเวร สน.หัวหมาก รับแจ้งพบศพชายลอยน้ำอยู่ในคลองแสนแสบ ซอยรามคำแหง 53 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พชร บุญญสิทธิ์ พ.ต.อ.อาณัติ เกล็ดมณี รอง ผบก.น.4 พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก แพทย์นิติเวช เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่เยื้องกับมัสยิดยามิดอุ้น อิสลาม
พบศพชายอายุประมาณ 25-30 ปี นอนหงาย สวมเสื้อยืดสีขาว มีรอยฉีกขาดเป็นรูจำนวนมากบริเวณหน้าอก สวมกางเกงยีน ที่ข้อมือซ้ายสวมนาฬิกายี่ห้อมิโด้ อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบมีชาวบ้านเดินมาบอกเจ้าหน้าที่ว่า บริเวณทางเดินริมตลิ่งห่างออกไปประมาณ 400 เมตร ใกล้กับสถานีสูบน้ำจิตมิตร พบรอยรองเท้าผู้ชายและผู้หญิงเปื้อนเลือด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
หลังจากเจ้าหน้าที่มูลนิธินำศพขึ้นมาจากน้ำเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าบริเวณหน้าอก ลำตัว และสีข้าง มีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม 21 แผล นอกจากนี้ยังมีบาดแผลฉกรรจ์ถูกของมีคมปาดที่บริเวณลำคอ เบื้องต้นแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 วัน จากการตรวจค้นในกระเป๋ากางเกงพบธนบัตรใบละ 100 บาท 1 ใบ ธนบัตรใบละ 20 บาท 3 ใบ และเศษเหรียญอีกจำนวนหนึ่ง ซองบุหรี่ยี่ห้อแอลเอ็ม สีแดง พวงกุญแจสีดำมีปลัดขิกห้อยอยู่ และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย รุ่น 6610
จากการสอบปากคำ นายอวยชัย เถื่อนพิทักษ์ อายุ 34 ปี ผู้ดูแลหอพักภายในซอยดังกล่าว ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ ให้การว่า
เมื่อเวลาประมาณ 13.40 น.วันเดียวกัน มีนักศึกษามาแจ้งว่าพบศพลอยในคลองดังกล่าว ตนกับพี่ชายใช้ไม้เขี่ยศพเข้ามาริมตลิ่ง ก่อนจะใช้เชือกมัดไว้ไม่ให้ศพไหลไปตามน้ำ จากนั้นรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.พัชร กล่าวว่า
จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ทราบว่า เมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา มีเหตุทะเลาะวิวาทกันบริเวณดังกล่าว แต่ไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องกับผู้ตายหรือไม่ คงต้องรอให้ญาติของผู้ตายมาแสดงตัว ก่อนจะให้ฝ่ายสืบสวนออกติดตามตัวคนร้าย
พ.ต.ท.โกเมน กล่าวว่า
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หัวหมาก ได้กระจายกำลังออกหาข่าว เพื่อตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใคร แต่จากการสอบถามชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ไม่มีใครรู้จัก และไม่เคยเห็นผู้ตายมาก่อน จึงสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายน่าจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่อริ กระทั่งถูกลวงมาทำร้ายอย่างทารุณด้วยความโกรธแค้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำซิมโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปตรวจสอบว่ามีการติดต่อกับผู้ใดบ้าง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บคราบเลือดที่พบบริเวณใกล้เคียงไปตรวจสอบว่าตรงกับของผู้ตายหรือไม่ หรือว่าเป็นของคู่กรณี เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป