เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ก.พ. นายสมพงศ์ ศรีระวี อายุ 56 ปี นางสมทรง ศรีระวี อายุ 55 ปี 2 สามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 249/2 หมู่ 6 ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช พร้อมครอบครัวและญาติๆ 20 กว่าคน เข้าสักการะศาลหลักเมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมนำสำเนาคำพิพากษาคดีที่นายชัยณรงค์ หรือแดง ศรีระวี อายุ 31 ปี บุตรชายถูก ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ หน.ชปข.ร้อย ตชด. 426 เมื่อครั้งใช้ชื่อเดิมว่า ร.ต.ท.ณธน พร้อมพวกกล่าวหาค้ายาบ้า โดยศาลอาญาพิพากษายกฟ้องเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2550 แต่ให้ขังระหว่างอุทธรณ์ มาตั้งไว้ที่แท่นเสาหลักเมือง
ภายหลังบนบานศาลกล่าว นายสมพงศ์เผยต่อผู้สื่อข่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า
ต้องการให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองนครศรีธรรมราช ดลบันดาลช่วยเหลือให้นายชัยณรงค์หลุดพ้นจากคดีโดยสิ้นเชิง โดยก่อนหน้าเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 48 นายชัยณรงค์ซึ่งมีอาชีพทำสวนยางพารา ทำสวนผลไม้ และเปิดร้านจำหน่ายปุ๋ยชื่อ ศักดาการเกษตร ถูก ร.ต.ท.ณธนและพวกจับที่ปัมน้ำมัน ปตท. ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และถูกนำตัวมาบ้านในสภาพสะบักสะบอม ก่อนลงมือซ้อมบุตรชายต่อหน้าตนและคนในครอบครัวอย่างรุนแรง เมื่อตนเข้าห้ามปราม ร.ต.ท.ณธนพร้อมตำรวจชุดจับกุมกลับนำบุตรชายออกจากบ้านไป เมื่อหายตกตะลึงจึงออกตามหาทั้งที่ สภ.นาบอน และ สภ.ทุ่งสง แต่ไม่พบ เมื่อพยายามขอแจ้งความ ตำรวจท้องที่กลับไม่ยอมรับแจ้ง
พ่อเหยื่อรายล่าสุดกล่าวต่อว่า
มารู้ทีหลังลูกชายถูกนำไป กทม.ในคดียาบ้า โดยลูกชายเล่าเหตุการณ์ให้ฟังถึงช่วงถูกจับกุมว่า ถูกซ้อมอย่างหนักให้รับว่ามียาบ้าทั้งที่ไม่เป็นความจริง จนลูกชายออกอุบายเพราะทนเจ็บไม่ไหวว่ายังมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ที่บ้าน เจตนาเพื่อมาขอความช่วยเหลือจากครอบครัว แต่กลับถูกซ้อมต่อหน้าต่อตาตนและคนในครอบครัวอีก ทุกวันนี้ยังจำตำรวจชุดนั้นได้แทบทุกคน และ 1 ในนั้นคือ จ.ส.ต.จรูญ แก้วกูล คนที่ยิงตัวตายไปแล้วที่ จ.ตรัง สำหรับทรัพย์สินของลูกชายที่หายไปขณะถูกจับ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำ 5 บาท พร้อมพระพ่อท่านคล้ายเลี่ยมทอง นาฬิกาข้อมือ และเงินสดอีก 9,800 บาท
นายสมพงศ์กล่าวต่อว่า
ในวันรุ่งขึ้น ร.ต.ท.ณธนและเจ้าหน้าที่ปกครอง ได้เข้าตรวจค้นบ้านตนอีกครั้ง แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย โดย ร.ต.ท.ณธนเรียกตนไปพูดคุยส่วนตัว ขอเงินสด 1 ล้านบาท เป็นค่าช่วยเหลือลูกชายไม่ให้ถูกดำเนินคดี แต่ตนมีแค่ 4 แสนบาท ร.ต.ท.ณธนบอกว่า มีแค่นี้ไม่ต้องมาพูดเรื่องช่วยเหลือ ตนจึงตั้งหน้าตั้งตาขายที่ขายทางหาเงินช่วยลูกสู้คดี ต้องขายสวนขายที่ดินไปแล้วกว่า 30 ไร่ ใช้เงินในการเดินทางขึ้นลง กทม. ค่าใช้จ่ายต่างๆ ค่าทนายความ หมดไปกว่า 1 ล้านบาท จนกระทั่งศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง
“สิ่งที่เกิดขึ้นหากลูกชายพ้นคดี ผมจะฟ้องทุกคนที่เกี่ยวข้องในการทำร้าย และยัดยาบ้าให้ลูก ผมต้องการได้ลูกคืนสู่ครอบครัว อยู่กันอย่างพร้อมหน้า และต้องการเอาเรื่อง ร.ต.ท.ณธน หรือ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ให้ถึงที่สุด แม้จะขายสวนขายที่ดินจนหมดตัวเพื่อเอาเรื่องเขาผมยอม เพราะผลแพทย์ระบุว่าลูกชายถูกซ้อม รวมถึงถูกช็อตด้วยไฟฟ้า จนกระอักเลือด นอกจากนี้อยากจะเรียกร้องและกราบขอร้องไปยังอัยการสูงสุดต่อคดีของนายชัยณรงค์ ให้ความอนุเคราะห์ให้ความช่วยเหลือกับคนที่ไม่ได้ทำความผิดด้วย” นายสมพงศ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
นอกจากสำเนาคำพิพากษาที่นายสมพงศ์นำมาตั้งที่แท่นเสาหลักเมือง ยังมีสำเนาบันทึกการจับกุมนายชัยณรงค์ ศรีระวี พร้อมด้วยยาบ้า 3,897 เม็ด ระบุชุดจับกุม นำโดยนายโสภณ สุวรรณคะราช เจ้าพนักงาน ปปส. พ.ต.อ.สันติชัย วีระภาคย์การุณ ผกก.2 บก.ปส.3 พ.ต.ท.ธงชัย ปัญจบุศย์ รอง ผกก.2 บก.ปส.3 ร.ต.ท.ณธน ชลนิธิวณิชย์ หน.ชปข.ร้อย ตชด.426 ร.ต.ต.ชาญ ชูยก หน.ชปข.ร้อย ตชด.435 และ ด.ต.ภานุวัฒน์ หมานหมาด จนท.กก.2 บก.ปส.3 (นปส.ภูเก็ต)
พ่อ แฉ ตชด.ทืบยัดยาลูกต่อหน้า
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!