นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล เปิดเผยว่า
ขณะนี้ทางบีเอ็มซีแอลได้รับหนังสือตอบรับจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในการปรับขึ้นราคาตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินตามสัญญาสัมปทานการเดินรถแล้ว โดยทางบีเอ็มซีแอล จะปรับขึ้นราคาค่าตั๋วโดยสารในวันที่ 3 ก.ค.นี้ ในอัตราราคาเริ่มต้น 15 บาท ปรับเพิ่มเป็น 16 บาท ส่วนราคาปลายทางจากเดิม 39 บาท ปรับเพิ่มเป็น 41 บาท
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า
การขึ้นค่าตั๋วโดยสารของบีเอ็มซีแอลจะสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ที่ให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม อาทิ รถโดยสารบริษัท ขนส่ง จำกัด (บ.ข.ส.) รถร่วมบ.ข.ส. รถโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รถร่วมขสมก. ตรึงราคาค่าโดยสารออกไปจนถึงสิ้นเดือนเม.ย.นั้น นายสมบัติ กล่าวว่า การปรับค่าโดยสารของรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นไปตามการปรับของอัตราเงินเฟ้อ และเป็นไปตามสัญญาสัมปทาน ซึ่งปัจจุบันบีเอ็มซีแอลยังขาดทุน หากไม่มีการปรับขึ้นราคาจะทำให้ขาดทุนจากการเก็บค่าโดยสารเพิ่ม 6-7% หากรัฐบาลหรือทางกระทรวงคมนาคมมี นโยบายให้ทางบีเอ็มซีแอลตรึงราคาค่าโดยสารออกไปก่อน ทางบริษัทก็ยินดีสนองนโยบายรัฐบาล
"ส่วนตัวเชื่อว่า การปรับค่าโดยสารตามสัญญานั้น เป็นเรื่องของความเหมาะสม และความเป็นธรรมมากกว่า เนื่องจากในปีที่ผ่านมา บริษัทยังขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท คาดว่าในปี"54 จะเริ่มทำกำไร และคาดว่าการนำระบบตั๋วร่วมมาใช้จะช่วยส่งผลให้ผู้โดยสารใช้รถไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 30%" นายสมบัติ กล่าว
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า
ทางบริษัทสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าทุกสาย แต่ต้องการความแน่ชัดจากรัฐบาล ในส่วนโครงการรถไฟฟ้า 9 สาย 8 แฉก เนื่องจากขณะนี้ยังมีบางเส้นทางที่ทับซ้อนกันอยู่ ร่วมทั้งยังไม่เข้าใจว่า สายสีใดสิ้นสุดตรงไหน และส่วนต่อขยายเพิ่มเติมจากจุดใด นอกจากนี้ จะต้องรอดูความแน่ชัดว่าโครงการเกิดได้จริงหรือไม่และระยะเวลาที่เกิดเมื่อใด หากเกิดเวลาใกล้เคียงกันมากก็ไม่สามารถเข้าร่วมประมูลได้ทุกโครงการ หากทยอยเกิดทางบริษัทจะสามารถทยอยเข้าร่วมประมูลโครงการรถไฟฟ้าได้
"ขณะนี้เอกชนทุกฝ่ายต้องการให้รัฐบาลมีความชัดเจนในเรื่องการเดินหน้าโครงการรถไฟฟ้า เพื่อจะได้วางกรอบในการดำเนินธุรกิจได้ ทางเราไม่ห่วงเรื่องเงินในการลงทุน แต่ห่วงเรื่องความชัดเจนของรัฐบาล ถึงแม้เราจะมี บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส เป็นคู่แข่ง แต่ก็เป็นเรื่องดีที่จะทำให้เกิดการแข่งขัน รัฐบาลและประชาชนจะมีทางเลือกมากขึ้นด้วย" นายสมบัติ กล่าว
ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (ช่วงหัวลำโพง-บางแค ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง (ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ) ทางบริษัทจะเข้าประมูลอย่างแน่นอน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
