ดินไหวเขย่า! หนีตายตึกสูง

เหตุการณ์แผ่นดินไหวหวนกลับมาเขย่าโสตประสาทคนทั้งโลกที่ผวาเกิดภัยพิบัติสึนามิอีกครั้ง

โดยสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อเวลา 15.08 น. วันที่ 20 ก.พ. เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.5 ริกเตอร์ เขย่าทั่วเกาะ สุมาตรา ฝั่งตะวันตกของอินโดนีเซีย จุดศูนย์กลางแรงสั่นไหวอยู่ใต้ท้องทะเลของเกาะสิมิวลู ห่างจากชายฝั่งเกาะสุมาตรา ลึกลงไป 34 กม. และเกิดอาฟเตอร์ช็อกสองระลอกวัดความแรงได้ 5.5 และ 5.3 ริกเตอร์ ตามลำดับ สร้างความตื่นตระหนกให้กรมอุตุวิทยาในหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย
 

ขณะเดียวกัน ตัวเลขความสั่นไหวครั้งแรกที่กรมอุตุนิยมวิทยาอินโดนีเซียวัดได้ 6.6 ริกเตอร์ แล้วปรับเพิ่มเป็น 7.3 ริกเตอร์ในภายหลัง

จุดศูนย์กลางห่างจากเมืองซินาบัง บนเกาะสิมิวลู ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 42 กม. ซึ่งนายไซนูล ทาฮาร์ หัวหน้าหน่วยค้นหาและช่วยเหลือในจังหวัดอาเจะห์ เปิดเผยว่า พบความเสียหายบ้านพังหลายหลังมีผู้เสียชีวิต 25 ศพ และผู้บาดเจ็บ 25 ราย ชาวบ้านหวา กลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยสึนามิ รีบอพยพขึ้นไปอยู่บนที่สูงกันอลหม่าน ส่วนความเคลื่อนไหวในพื้นที่ 5 จังหวัดอันดามันของไทย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตรา นั้น แทบไม่มีผลกระทบใดๆ โดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต ตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น หาดป่าตอง หรือหาดกะรน นักท่องเที่ยวยังคงเล่นน้ำและนอนอาบแดดตามชายหาดปกติ ไม่มีสัญญาณเตือนภัย หรือไซเรนใดๆ

ขณะที่ศูนย์วิทยุเมืองภูเก็ต ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์ความผิดปกติของระดับน้ำทะเลตามแนวชายหาดอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัย

แต่สำหรับอาคารสูงจะได้รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน โดยสำนักงานเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งเป็นอาคารสูง 7 ชั้น สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือน เจ้าหน้าที่ต่างตกใจรีบลงจากอาคารกันวุ่น ด้านนายนพดล เจริญพงศ์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ เทศบาลนครภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะเกิดแผ่นดินไหว กระจกกั้นห้องสั่นและมีสิ่งของตกแตก จากนั้นสักพักทุกอย่างเป็นปกติ ขณะที่นายโชตินรินทร์ เกิดสม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ภูเก็ต กล่าวว่า จ.ภูเก็ต ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนของการเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้แต่อย่างใด หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้สั่งการให้ เครือข่ายเฝ้าเตือนภัยพิบัติและเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดทุกจุด แม้ จ.ภูเก็ต ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ แผ่นดินไหวครั้งนี้ แต่เพื่อเป็นการไม่ประมาทได้สั่งเฝ้าระวังทุกๆจุด 

ต่อมาเวลา 15.52 น. ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติได้ส่งแฟกซ์แจ้งเตือนพร้อมเฝ้าระวังสึนามิฉบับที่ 1 มายัง ปภ.ภูเก็ต

ซึ่งการประเมินสถานการณ์คาดว่ามีโอกาสที่จะเกิดคลื่นสึนามิ เป็นเกณฑ์เตรียมพร้อมเฝ้าระวัง โดยคลื่นสึนามิอาจเป็นอันตรายต่อพื้นที่แนวชายฝั่ง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง สตูลและตรัง โดยการประเมินคลื่นยักษ์สึนามิจะถึงหาดป่าตองในเวลา 17.08 น. พร้อมกับชายหาดกะรน บ้านท่าฉัตรไชย หาดในยาง หาดบางเทา เกาะพีพีตามลำดับ โดยให้ประสานให้เทศบาลตำบลกะรน เทศบาลเมืองป่าตองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อเตรียม พร้อมรับสถานการณ์ กระทั่งเวลา 16.40 น. ศูนย์เตือนภัย พิบัติฯได้แจ้งยกเลิกการแจ้งเตือนพร้อมเฝ้าระวังฉบับที่ 1 เพราะไม่มีคลื่นสึนามิตามแนวชายฝั่งอันดามันแต่อย่างใด

ขณะเดียวกันที่ จ.พังงา ประชาชนในบ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยได้รับความเสียหายจากเหตุสึนามิอย่างหนัก ได้พากันอพยพไปอยู่ที่สูง
 
แต่บางส่วนโดยเฉพาะคนหนุ่มยังคงเฝ้าทรัพย์สินอยู่กับบ้าน พร้อมกับคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด แต่หลังได้รับประกาศยกเลิกการเตือนภัยชาวบ้านต่างกลับบ้านตามปกติ ขณะที่นายวิชัย ไพรสงบ ผวจ.พังงาและคณะได้เดินทางไปตรวจสอบพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า พร้อมเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง มั่นใจว่าหากมีเหตุการณ์การเกิดขึ้นจริง ยังมีเวลาพอที่จะอพยพชาวบ้านไปยังที่ปลอดภัยได้ทัน
 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่บ้านบางเนียง ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวมีชื่อของ จ.พังงา ที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า เขาหลัก ได้มีพนักงานโรงแรมและคนงานก่อสร้าง พากันอพยพหนีมารวมตัวบนถนนเพชรเกษมจำนวนมาก

เพราะผวาภัยตึกถล่มกับสึนามิ แต่ เป็นที่น่าสังเกตว่าแทบไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ตื่น ตระหนกจากเหตุการณ์ครั้งนี้  ที่ จ.กระบี่ นายอรุณพงศ์ ศรีสวัสดิ์ เจ้าของร้านอาหารเลมอนคลาส เกาะพีพี กล่าวว่า ได้รับข่าวจากทางโทรศัพท์มือถือว่ามีแผ่นดินไหว แต่ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไม่ได้แตกตื่น เพียงแต่รอฟังความชัดเจนอีกครั้งจากหอเตือนภัยพิบัติแห่งชาติที่ได้มีการติดตั้งไว้ แต่ทุกคนก็ไม่ได้ประมาท ได้มีการเตรียมความพร้อม ที่จะรับมือหากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง ทางด้าน จ.สตูล พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช สว.สถานีตำรวจน้ำ 3 กก.9 ซึ่งรับผิดชอบฝังทะเลอันดามันฝั่ง จ.สตูล ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำอยู่ที่ศูนย์วิทยุช่วยเหลือเรือประมงและนักท่องเที่ยว เกาะหลีเป๊ะ และศูนย์สถานีตำรวจน้ำ 3 กก.9 ให้แจ้งทางวิทยุสื่อสารไปยังเรือประมงทุกลำ ให้เฝ้าติดตามข่าวการเกิดคลื่นสึนามิอย่างใกล้ชิด และให้นำเรือออกจากฝั่งเพื่อความปลอดภัย
 

แม้ว่าในพื้นที่จังหวัดอันดามันไม่มีผลกระทบมากจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ แต่ปรากฏว่าพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา กลับรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

โดยเฉพาะตามอาคารสูงหลายแห่งในเมืองหาดใหญ่จนสร้างความแตกตื่นไปทั่ว โดยเฉพาะที่ตึกจุลดิส ย่านถนนนิพัทธ์อุทศ 3 ซึ่งเปิดเป็นอาคารสำนักงานให้เช่าสูง 7 ชั้น บรรดาพนักงานบนตึกต่างรับรู้แรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงติดต่อกันถึง 2 ครั้ง จนทำให้พนักงานนับร้อยคนต่างวิ่งหนีลงมาอยู่นอกอาคารอย่างโกลาหล รวมทั้งอาคาร รพ.สงขลานครินทร์ โรงแรมและห้างสรรพสินค้า ต่างรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ
 

ที่ จ.กาญจนบุรี นายอำนาจ ผการัตน์ ผวจ.กาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับผลกระทบต่อเขื่อนในพื้นที่จากเหตุแผ่น ดินไหวว่า

หลังเกิดเหตุได้สั่งให้ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรีและนายอำเภอ รวมทั้งผู้อำนวยการเขื่อนต่างๆให้ตรวจสอบผลกระทบ และได้รับการยืนยันว่า แผ่นดินไหวในครั้งนี้ไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งปลูกสร้าง หรือเขื่อนๆต่างในพื้นที่ จ.กาญจนบุรีแต่อย่างใด 

ส่วนพื้นที่ กทม. นายชัยพร มหาขันธ์ กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไปกลุ่มโรงแรมใบหยก เปิดเผยว่า

เพิ่งจะทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเซียเมื่อประมาณ 17.00 น. เพราะที่โรงแรมใบหยก สกาย ไม่มีการสั่นไหวของตัวอาคารจนทำให้รู้สึกได้แม้แต่น้อย ส่วนลูกค้าและพนักงานก็ไม่มีใครรู้สึกถึงการสั่นไหวของตัวอาคารแต่อย่างใดเช่นกัน ด้านสำนักแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่องแผ่นดินว่า เมื่อเวลาประมาณ 15.08 น. เกิดแผ่นดินไหวมีแรงสั่นสะเทือนลึกลงไปใต้ผิวโลก 10 กม. วัดได้ 7.5 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่บริเวณตอนเหนือของเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย และอาจจะเกิด “สึนามิ” ขึ้นได้ในบริเวณใกล้จุดศูนย์กลาง

สำหรับประเทศไทยที่กรุงเทพฯ และ จ.ภูเก็ต จะรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนได้บนอาคารสูง
 
ขณะที่ น.อ.ชิติภัทร เพชระบูรณิน รักษาการ ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ได้มีคำสั่งออกประกาศเตือนเพื่อเฝ้าระวังไปตามจุดต่างๆ ที่เป็นพื้นที่ใกล้ทะเลที่เสี่ยงต่อการเกิดคลื่นยักษ์ “สึนามิ” ใน จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ต่อมาเวลา 16.35 น. ได้ประกาศยกเลิก เพราะตรวจสอบแล้วไม่พบการเกิดคลื่นสึนามิแต่อย่างใด