ชาวบ้านแห่ดู-แช่ง โจรลอกทองพระ

ชาวบ้านแห่ดูองค์พระเหยื่อมือมารที่แอบลอกทองมูลค่ากว่าสิบล้านบาท เผยเดินทางมาจากจังหวัดใกล้เคียงและพระอเมริกา หลายคนเศร้าใจและสาปแช่งคนร้ายให้มีอันเป็นไป

พร้อมช่วยกันบริจาคเพื่อบูรณะซ่อมแซม ส่วนทางวัดยังไม่มีความคิดเรื่องตั้งตู้บริจาค หวั่นจะถูกครหาว่าสร้างเรื่องมุ่งหวังผลประโยชน์ ตร.กรุงเก่าเร่งล่าตัวคนร้าย พบหลักฐานข้อความเขียนว่า "สู่เฮาร์" สงสัยโจรอาจเป็นคนทางภาคเหนือ

จากกรณีมารศาสนาบุกวัดบางปลาหมอ ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ลักลอบขูดเอาทองคำเปลวที่หุ้มองค์พระนอน 2 องค์ อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี โดยใช้น้ำยาเคมีราดองค์พระเพื่อนำทองคำเปลวไปขาย รวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท จนทองแทบหมดองค์พระ ไม่เว้นแม้กระทั้งประตูโบสถ์ ตามที่เสนอไปนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 17 ก.พ. ที่วัดบางปลาหมอ ม.6 ต.น้ำเต้า อ.บางบาล จ.พระนครศรี อยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน

ได้มีประชาชนจากหลายจังหวัด เช่น สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี สมุทรปราการ อ่างทอง กรุงเทพฯ รวมทั้งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 1,000 คน เดินทางมากราบไหว้ พระพุทธไสยาสน์มงคลสรรเพชญ หรือพระนอน ขนาดความยาว 23.59 เมตร ที่ถูกคนร้ายขูดเอาทองคำเปลวที่หุ้มองค์พระไป


พระมหาทองศรี อายุ 54 ปี พระธรรมทูตสายต่างประเทศ ปัจจุบันได้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาอยู่ที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ทราบข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ ประกอบกับได้เดินทางกลับมากรุงเทพฯ กล่าวว่า สำหรับวัดแห่งนี้ไม่เคยมาจึงเดินทางมาดูของจริง เมื่อมาเห็นรู้สึกเศร้าใจ คนร้ายน่าจะใช้เวลาในการขูดลอกทองหลายวันไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ส่วนคนร้ายที่ขูดลอกทองไปไม่อยากประณาม ใครทำสิ่งใดย่อมติดตัวไปตลอดเวลา ทำดีได้ดี คิดไม่ดีก็ติดตัวไปเอง

ด้านพระครูอุดมนวการ เจ้าอาวาสวัดบ้านแดง และเจ้าคณะตำบลน้ำเต้าเปิดเผยว่า รู้สึกสะเทือนใจอย่างมากคนร้ายมาทำต่อพระพุทธศาสนา ก่อนหน้านี้ทราบว่ามีพระและของเก่าๆ ได้หายไปบ้างแต่เจ้าอาวาสไม่ได้แจ้งความเพราะเกรงกลัวว่าจะมีคนมาทำร้าย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ได้เข้ามาตรวจ สอบ เพื่อทำรายงานให้กับเจ้าคณะอำเภอและ เจ้าคณะจังหวัดทราบ รวมทั้งหาวิธีการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

นายเลื่อน ตรีสาคร อายุ 82 ปี ไวยาวัจกร วัดบางปลาหมอ กล่าวว่า รู้ข่าวแล้วสะเทือนใจ ส่วนคนร้ายจะเป็นใครให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตาม ตนและคณะกรรมการวัดไม่สามรถจะชี้ชัดเรื่องนี้ ได้ปรึกษากับเจ้าอาวาสต่อไปจะมีคณะกรรมการวัดมาช่วยดูแล ส่วนเรื่องการบูรณะขณะนี้ยังคิดไม่ออกเพราะมูลค่าสูงมากต้องบูรณะพระทั้งองค์ คงต้องค่อยทำค่อยไปซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ได้มีประชาชนเดินทางมามากขึ้นขอวิงวอนผู้ที่มากราบไหว้ อย่าได้ไปขูดหรือลูบองค์พระเพราะจะทำให้เป็นรอย ยากต่อการบูรณะต่อไป

พระมหาประเสริฐ จันทวีโร เจ้าอาวาส วัดบางปลาหมอ กล่าวว่า ได้มีญาติโยมสอบถามมามากทำไมไม่ตั้งตู้รับริจาคในการบูรณะ ตนเกรงว่าจะเป็นเรื่องไม่ดีหาว่าทางวัดสร้างเรื่องขึ้นเอง เรื่องนี้แล้วแต่ประชาชน ถ้าผู้ใดมีจิตศรัทธาให้เดินทาง มาทำบุญที่วัดโดยตรง ส่วนเรื่องคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาสอบสวนคนในวัดไปบ้างแล้ว ขอฝากเจ้าหน้า ที่ตำรวจให้ช่วยติดตาม ส่วนตนมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2544 พยามปรับปรุงบูรณะวัดเรื่อยมาความคิดเห็นบางครั้งไม่ตรงกับชาวบ้านที่อยู่รอบๆ วัดมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ต.ต.รามณรงค์ บุญเกิด สว. กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 30 นายเข้าประชุม เป็นเวลานาน 1 ช.ม.

จากนั้นได้กระจายกำลังออกเป็น 5 ชุด เดินทางไปหาข่าวในพื้นที่ อ.เสนา อ.มหา ราช และอ.บางบาล โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ใกล้วัดจำนวน 5 คน มีการตรวจสอบประวัติอย่างละเอียด ซึ่งเรื่องนี้ทางตำรวจขอเวลาอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ยังเดินทางไปตามแหล่งรับซื้อทองคำเปลว เพื่อหาข้อมูล

รายงานข่าวจากช่างที่รับเหมาปิดทององค์พระรายหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า คน ร้ายที่โจรกรรมครั้งนี้ต้องมีความชำนาญรู้จักเลือกใช้น้ำยาที่ใช้ลอกทอง เท่าที่ทราบ มีอยู่ 1 ชนิดคือ โพลีเอสเตอร์ อีเทอร์ทินเนอร์

มีประสิทธิภาพในการทำลายเม็ดสี เมื่อทาแล้วจะขูดลอกเอาทองคำเปลวออกมาจากเนื้อของรักได้เป็นอย่างดีใช้เวลาไม่นาน นอกจากนี้จากการตรวจสอบรอบๆ องค์พระพบว่าที่บริเวณฝ่าเท้า มีตัวหนังสือเขียนขนาดใหญ่เขียนด้วยเนื้อทองคำเปลวที่ละลาย มีข้อความว่า "สู่เฮาร์" อาจจะเป็นประเด็นหนึ่งที่จะทำให้ทราบว่ากลุ่มคนร้ายอาจจะเป็นคนทางภาคเหนือ