ค่าไฟฟ้างวดเดือนกุมภาพันธ์ขยับขึ้น 2.78 สตางค์ บ้านเรือนจ่ายหน่วยละ 3.05 บาท รมว.พลังงานโชว์ผลงานอุ้มประชาชนชิ้นแรก แจงเงินบาทแข็ง ผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำมากขึ้นช่วยหนุน งวดหน้ายังเหนื่อยค่าก๊าซปรับขึ้นต่อเนื่อง เตรียมเดินหน้าหารือเรื่องก๊าซหุงต้ม
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลอัตราค่าไฟฟ้าและค่าบริการ กล่าวหลังการประชุมคณะอนุกรรมการว่า
ที่ประชุมมีมติเสนอให้คณะกรรมการกำกับนโยบายพลังงานแห่งชาติ (เรคกูเลเตอร์) พิจารณาปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ในอัตรา 2.75 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าเอฟทีปรับขึ้นมาอยู่ที่ 68.86 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเมื่อรวมกับค่าไฟฐานที่ 2.25 บาทต่อหน่วย ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.93 บาทต่อหน่วย โดยในส่วนของค่าไฟตามบ้านเรือนจะปรับขึ้นเป็น 3.05 บาทต่อหน่วย
"การที่ค่าเอฟทีปรับขึ้นน้อยเกิดจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจาก 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เหลือ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ค่าเอฟทีช่วยให้ค่าเอฟทีไม่ต้องปรับขึ้นได้ส่วนหนึ่ง และยังเกิดจากการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำในระดับที่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ด้วย ซึ่งค่าไฟฟ้าดังกล่าวยังไม่มีผล ต้องเสนอเรคกูเลเตอร์ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ เพื่ออนุมัติ ซึ่งความจริงค่าไฟฟ้างวดดังกล่าว ความจริงต้องปรับขึ้นมากกว่านี้ แต่เพราะได้รับนโยบายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจึงได้ปรับลดลง" นายณอคุณ ระบุ
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า
ขณะนี้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้นต่อเนื่อง แต่ราคาก๊าซที่นำมาคำนวณค่าเอฟทีงวดนี้ ยังใช้อัตราค่าผ่านท่อเดิม ส่วนอัตราค่าผ่านท่อใหม่ที่จะเพิ่มอีก 2 บาทต่อล้านบีทียูนั้น จะเสนอขออนุมัติจากเรคกูเลเตอร์เร็วๆ นี้ เพื่อนำมาคำนวณค่าเอฟทีในงวดมิถุนายน-กันยายน โดยค่าผ่านท่อทุก 1 บาทที่ปรับขึ้นมีผลต่อค่าไฟ 0.6 สตางค์ต่อหน่วย ดังนั้น ค่าผ่านท่อที่ปรับขึ้น 2 บาทต่อล้านบีทียู มีผลต่อค่าไฟ 1.2 สตางค์ต่อหน่วย
ขณะที่ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน กล่าวว่า
หลังจากนี้จะพิจารณาเรื่องราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) เพื่อดูว่าจะมีวิธีบริหารจัดการได้อย่างไร โดยจะขอศึกษาโครงสร้างและหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ก่อน เพราะมีปัจจัยเกี่ยวข้องกันมาก เช่น การนำก๊าซหุงต้มไปใช้ผิดประเภท รวมถึงความพร้อมของพลังงานทางเลือกอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่มีนโยบายแทรกแซง หรือตรึงราคาพลังงานแน่นอน
รมว.พลังงาน กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ได้หารือกับ 2 หน่วยงานคือ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยในส่วนของกรมเชื้อเพลิงฯ ได้สรุปการให้สัมปทานปิโตรเลียมช่วงที่ผ่านมาและมีการหารือถึงแปลงสัมปทานที่ยังค้างการพิจารณาอีก 6 แปลง ต้องขอดูรายละเอียดก่อน แต่ที่ค้างอยู่ทราบว่าบางส่วนเกิดจากปัญหาของบริษัทเอง
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
