เดนคุกค้ายาบ้า

ตร.บางยี่ขัน รวบหนุ่มวิน จยย.รับจ้าง ค้ายาบ้าหลังใช้แผนล่อซื้อ บุกค้นห้องอพาร์ตเมนท์พบของกลางยาบ้ากว่าพันเม็ด ปืนอีก 3 กระบอก เผยประวัติเคยติดคุกมาแล้วในคดีเดียวกัน ก่อนพ้นโทษหวนเส้นทางเดิม อ้างเหตุต้องหาเลี้ยงเมียสองกับลูกแฝด

วันนี้ (13 ก.พ.) เมื่อเวลา 05.00 น. ที่ห้องประชุม สน.บางยี่ขัน พ.ต.ท.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ สว.สป.สน.บางยี่ขัน แถลงข่าวการจับกุม นายราเชน หรือเจ๊าะ ปันดี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 952/1 ซ.จรัลสนิทวงศ์ 46 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. พร้อมของกลาง เป็นยาบ้า  1,200 เม็ด เงินสด 1,640 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง อาวุธปืนรีโวลเวอร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนรีโวลเวอร์ ขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อเบเรตต้า ขนาด 6.35 จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืน 34 นัด ซึ่งปืนทุกกระบอกมีทะเบียน แต่ไม่มีใบอนุญาต โดยถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท1(เมทแอมเฟตามีน) ใว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจักกุมตัวได้ที่ ชวลิตอาร์พาร์ตเมนท์ ซอยสวนผัก 32 ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

พ.ต.ท.ลือศักดิ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการจับกุมผู้เสพรายหนึ่ง จากนั้นจึงทำการขยายผลจนทราบว่า  นายราเชน ซึ่งอาศัยอยู่ในชวลิตอาร์พาร์ตเมนท์ เป็นผู้จำหน่ายยาบ้า จึงวางแผนทำการล่อซื้อยาบ้าจากนายราเชน

จำนวน 1 ถุง ซึ่งมียาบ้า 200 เม็ด ในราคา 22,500 บาท โดยนัดส่งมอบยาบ้ากันที่บริเวณหน้า ชวลิตอพาร์ตเมนท์ เมื่อถึงเวลานัด นายราเชน ได้ปรากฏตัวที่จุดนัดพบ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นตัว และพบของกลางยาบ้า 200 เม็ด จากนั้นได้ตรวจค้นที่ห้องพักพบยาบ้าที่เหลือ และยึดอาวุธปืน และกระสุนปืนซุกซอ่นอยู่ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งและใต้ที่นอน

นายราเชน ให้การรับสารภาพ ว่า ตนเองมีอาชีพขับรถจักรยานยนต์รับจ้างที่วิน ซ.จรัลสนิทวงศ์ 46

ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2544 ได้ถูกจับกุมข้อหาจำหน่ายยาบ้า ท้องที่สน.บางยี่ขัน และเมื่อพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2549 ก็มีภรรยาถึง2 คน ที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกันจนมีภาระต้องรับผิดชอบครอบครัวอีกทั้งยังมีลูกแฝดหญิง ที่เกิดจากภรรยาหลวงอายุ 1ขวบเศษ  รายได้ไม่เพียงพอ จึงหวนกลับมาจำหน่ายยาบ้าอีกครั้ง โดยรับยาบ้าจากนายแจ็ค ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งอยู่ฝั่งพระนคร ก่อนนำมาจำหน่ายอีกทอด ส่วนอาวุธปืนนั้นมีผู้มาจำนำกับตนในราคากระบอกละ 1 หมื่นบาท เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.