กองปราบปราม บุกรวบตัว 2 หนุ่มใหญ่ อ้างช่วยวิ่งเต้นสอบตำรวจชั้นประทวนเป็นชั้นสัญญาบัตรได้
(12มค.) เวลา 14.00 น.
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ สุขวัฒน์ธนกุล ผกก.1 กองบังคับการกองปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จับกุม ผู้ต้องหาแอบอ้างหลอกลวงประชาชนรวมถึงข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ข้าราชการ และหน่วยงานรัฐวิสาหกิจต่างๆ ให้หลงเชื่อว่าสามารถวิ่งเต้นฝากบุคคลให้สอบเลื่อนชั้นเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรหรือบุคคลทั่วไปให้เข้ารับราชการในหน่วยงานสำคัญต่างๆ ได้ โดยเรียกเงินเป็นค่าจ้างรายละ 200,000 - 600,000 บาท มีการนัดเซ็นต์สัญญาข้อตกลงและส่งมอบเงินงวดแรกเป็นเงิน 30,000 - 50,000 บาท แล้วแต่ตำแหน่งที่รับ
ส่วนเงินที่เหลือให้แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ แล้วแต่ตกลงกันจนกว่าจะครบจำนวนที่มีการว่าจ้าง ซึ่งมีเหยื่อหลงชื่อ 200-300 ราย
จับผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือนายอาณัติ สุมาลี อายุ 49 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 126 / 140 หมู่ 12 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. และนายสมยศ ทูลบุญ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางซึ่งเป็นเอกสารหนังสือสัญญาระบุการว่าจ้างระหว่างเหยื่อผู้เสียหายกับนายอาณัติ กว่า 200 ฉบับว่ามีการสัญญาตกลงกันให้นายอาณัติ ผู้รับสัญญาเป็นที่ปรึกษาแนะแนวและดำเนินการติววิชาในการสอบเข้ารับราชการ สอบเลื่อนชั้นหน่วยงานสังกัดกทม.เทศ บาล,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมศุลากร และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ
โดยมีการเซ็นต์สัญญาตกลงยินยอมแบ่งจ่ายเงินเป็นงวดๆจนกว่าจะครบกำหนด ตามวงเงินที่ตกลงกันไว้ พร้อมยังมีของกลางที่ตรวจค้นได้ในบ้านพักยังมีสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ กว่า 20 เล่ม หลักฐานการจ่ายเช็คเงินสดของเหยื่อ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก รวมถึงใบโฆษณาชวนเชื่อ ในการแนะแนวและติวข้อสอบเข้าหน่วยงานต่างๆ โดยจับกุมนายอาณัติ และนายสมยศ ได้ขณะทำการล่อซื้อ โดยให้เจ้าหน้าที่อ้างตัวเป็น ด.ต.หญิงคนหนึ่งต้องการสอบเลื่อนขั้นเป็น รองสารวัตร ติดต่อนัดหมายกับผู้ต้องหาว่าต้องการให้ช่วยเหลือภายในร้านแมคโดนัล ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ เมื่อวันที่ 12 มกราคม ที่ผ่านมา
เมื่อผู้ต้องหาทั้งสองปรากฎตัว จนกระทั่งพูดคุยและเซ็นต์สัญญา เจ้าหน้าที่สายสืบนอกเครื่องแบบที่ซุ่มดูเหตุการณ์ได้แสดงตัวเข้าจับกุม และแจ้งข้อหากระทำผิดฐานร่วมกันพยายามฉ้อโกง พร้อมของกลางเงินสด 3,000 บาท ที่ผู้ต้องหาเรียกเก็บเป็นค่ามัดจำจากยอดเงินที่มีการเซ็นต์สัญญาไว้ 250,000 บาท จากนั้นนำตัวส่ง สน.ลาดพร้าว เพื่อดำเนินคดี
พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า
สืบเนื่องจาก กองบัญชาการศึกษาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เปิดรับสมัครคัดเลือกข้าราชการตำรวจชั้นประทวน ผู้มีวุฒิปริญญาตรี เข้ารับการฝึกอบรมแต่งตั้งเป็นตำรวจชั้นสัญญาบัตรตำแหน่งรองสารวัตร จำนวน 2,800 อัตรา ซึ่งมีการรับสมัครทั่วประเทศ และเปิดสอบข้อเขียนในวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคมนี้ แต่ปรากฏว่ามีผู้แอบอ้างโฆษณาชวนเชื่อว่าสามารถวิ่งเต้นได้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมอบหมายให้กองปราบปรามทำการสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าว จนจับกุมนายอาณัติ ได้ในที่สุด
โดยพบว่านายอาณัติ เป็นนายหน้าดำเนินการ ในการเจรจา
ในส่วนของค่าจ้างโดยมีลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่มาจากการบอกต่อกันและมีการตั้งศูนย์ติวเตอร์ตามต่างจังหวัด ซึ่งผู้มาสมัครส่วนใหญ่จะต้องเซ็นต์สัญญากับนายอาณัติทั้งหมด จากนั้นจะส่งต่อให้กับนายสมยศ ฝึกการใช้โทรศัพท์มือถือซึ่งมีการติดตั้งโปรแกรมในการเขียนคำตอบ เพื่อบอกคำตอบ เมื่อถึงวันสอบก็จะลักลอบนำมือถือเข้าไปในห้องสอบ โดยทั้งสองคนรับสารภาพว่าทำมานาน 2-3 ปี แล้ว
ด้านนายอาณัติ กล่าวว่า
มีอาชีพเป็นนายหน้าขายที่ดินและเป็นเซลล์ขายบ้าน เป็นนายหน้าปล่อยเงินกู้ ให้กับตำรวจตามโรงพักต่างๆ จึงรู้จักคนเยอะ จนตำรวจหลายคนให้ความเชื่อถือก็มาฝากเนื้อฝากตัวและขอร้องให้ช่วย ที่ผ่านมายังไม่ได้รับเงินจากใคร มีเพียงเงินที่จ่ายเป็นค่าโทรศัพท์จำนวน 3,000-4,000 บาทเท่านั้น ถ้าหากคนที่ต้องการให้ติวก็ต้องซื้อโทรศัพท์จากตน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นโทรศัพท์ที่ติดตั้งโปรแกรมคำตอบไวัแล้ว ที่ผ่านมาก็ได้ผลบ้างไม่ได้บ้าง บางคนก็สอบได้ด้วยตัวเอง และก็ไม่จ่ายเงินบ้าง สัญญาที่เขียนก็ไม่มีผลอะไร ตนไม่ได้ไปตามทวงหนี้สิน
สำหรับนายอาณัติ มีพฤติการณ์การกระทำผิดและถูกออกหมายจับมาก่อนหน้านี้ 5 คดีด้วยกัน
ตั้งแต่ปี 2536 หมายจับ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ข้อหา พ.ร.บ.เช็ค ,ปี 2543 สน.บางชัน ข้อหา พ.ร.บ.เช็ค ,ปี 2544 สภ.ควนโดน จ.สตูล ข้อหาจ่ายค่าจ้างไม่ถูกต้อง และยังมี ปี 2545-2546 ข้อหาฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ในท้องที่เดียวกัน ทางกองปราบปรามอยากประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนและข้าราชการตำรวจ ที่มุ่งหวังความก้าวหน้าว่าสามารถสบายใจได้ว่าการสอบคัดเลือกที่กำลังจะถึงนี้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมอย่างแท้จริง และหากประชาชนคนไทยพบเห็นการกระทำผิด มีพฤติการแอบอ้างว่าสามารถวิ่งเต้นจากบุคคลเข้าเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร หรือเข้ารับราชการในที่อื่น ๆ หรือเข้าเรียนที่ใดก็ตามให้แจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลข 1195 ตลอด 24 ชั่วโมง