สคบ.คุมโฆษณาขายตรง

นายนิโรธ เจริญประกอบ รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า

ได้ประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศตรวจสอบการโฆษณารับสมัครงานของธุรกิจขายตรงตามอินเตอร์เน็ต สื่อสิ่งพิมพ์และใบปลิวที่ติดตามสะพานลอยหรือเสาไฟฟ้า เพื่อไม่ให้เกิดการเชิญชวนให้สมัครเป็นสมาชิกแบบแชร์ลูกโซ่ เพราะปัจจุบันมีหลายบริษัททั้งที่จดทะเบียนขายตรงกับ สคบ. และไม่ได้จดทะเบียน ชักชวนประชาชนมาสมัครงานและลงทุนกับบริษัท โดยให้ค่าตอบแทนสูงเกินจริง ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่เป็นสมาชิกเดือดร้อนเหมือนกรณีแชร์ข้าวสารของบริษัทอีซี่ เน็ตเวิร์ค มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ถูก สคบ.ถอนทะเบียนและถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย
 

อย่างไรก็ตาม อยากขอความร่วมมือประชาชนแจ้งเบาะแสการโฆษณา

ของบริษัทขายตรง ขณะเดียวกันยังเป็นห่วงพฤติกรรมของเจ้าของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ตัวจริง เพราะหลังจากได้กำไรมากจนพอใจ และต้องการโยกเงินไปทำธุรกิจอย่างอื่น ก็ให้ลูกน้องไปแจ้งตำรวจ แล้วให้รับผิดทางกฎหมายก่อน รวมถึงทิ้งหลักทรัพย์จำนวนหนึ่งให้รัฐยึด หลังจากนั้นจึงมาช่วยในภายหลัง

“สคบ.ต้องเข้มงวดตรวจสอบโฆษณา หรือแผนธุรกิจขายตรงที่จดทะเบียนกับ สคบ. ประมาณ 600 รายก่อน

เพื่อไม่ให้เปลี่ยนแผนงานไปเป็นแชร์ลูกโซ่ ส่วนบริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียน หากพบจะดำเนินตามกฎหมาย อยากเตือนให้ประชาชนรอบคอบสมัครงานหรือสมัครสมาชิก ป้องกันถูกหลอก โดยเฉพาะการให้ค่าตอบแทน 2-3 เท่าของเงินลงทุนในระยะสั้น เพราะไม่มีธุรกิจที่ถูกกฎหมายที่ไหนทำได้”
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สคบ.เป็นห่วงกลุ่มเกษียณอายุจะถูกหลอกให้เป็นสมาชิกแชร์ลูกโซ่

เพราะมีเงินออมจากบำเหน็จบำนาญ จึงอยากหาเงินโดยไม่ต้องเป็นภาระของลูกหลาน นอกจากนี้ ยังห่วงว่าจะมีบางธุรกิจระดมทุนจากเกษตรกรแบบแชร์ปุ๋ยเคมี หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีแชร์ข้าวสารและแชร์ก๋วยเตี๋ยวไปแล้ว.