สะเทือนวงการท่องเที่ยว! อิสราเอลกลืนเกาะพะงันจริงหรือ?


สะเทือนวงการท่องเที่ยว! อิสราเอลกลืนเกาะพะงันจริงหรือ?


เกิดอะไรขึ้นบนเกาะพะงัน? ทำไมต้อง "ทวงคืนเกาะ"?

กลายเป็นประเด็นร้อนที่สั่นสะเทือนวงการท่องเที่ยว เมื่อเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลกจากงานฟูลมูนปาร์ตี้ และเป็นศูนย์กลางของ Wellness (โยคะ สมาธิ) ในฝั่งตะวันตก กำลังเผชิญกับคลื่นการลงทุนและกลุ่มนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่จากประเทศ อิสราเอล จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้อง "ทวงคืนเกาะ" จากคนไทยและต่างชาติที่อาศัยอยู่บนเกาะ

ปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องนักท่องเที่ยว แต่ลามไปถึงการ ถือครองที่ดินและพฤติกรรมทางสังคม จนหลายคนมองว่านี่คือการ "กลืนชาติ" ในรูปแบบใหม่!

แหล่งข้อมูลจากชาวไทยและต่างชาติบนเกาะพะงันได้ชี้ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงในช่วง 2-3 ปีหลังการระบาดของ COVID-19:

กว้านซื้อที่ดินมหาศาล:
ชาวพะงันเปิดเผยว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินบนเกาะพะงันเปลี่ยนมือไปเป็นของนักลงทุนอิสราเอลถึง 60-70% โดยเฉพาะพื้นที่สวยงามทางฝั่งตะวันตก โดยมีราคาที่ดินพุ่งขึ้นถึง 200-300% นักลงทุนเหล่านี้เข้ามาในรูปแบบของ "นอมินี" (ตัวแทน) เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายการถือครองที่ดินของคนต่างชาติ ทำให้เกิดความกังวลว่าภูเขาและที่ดินของคนไทยกำลังถูกซื้อไปเป็นลูกๆ เพื่อพัฒนาเป็นวิลล่าและบ้านเช่า

ผุดธุรกิจผิดกฎหมาย:
เมื่อนายทุนเข้ามายึดพื้นที่ ก็มีการสร้างวิลล่า สร้างบ้าน และมีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการก่อสร้างที่ผิดกฎหมาย หรืออาจมีการ "จ่ายใต้โต๊ะ" ให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อให้ดำเนินกิจการได้สะดวก

เปลี่ยนกลุ่มนักท่องเที่ยว:
ในพื้นที่ศรีธนู ที่เคยสงบเงียบ เหมาะสำหรับ Wellness กลายเป็นพื้นที่พลุกพล่าน เพราะถูกครอบครองไปด้วยชาวอิสราเอล ซึ่งชาวบ้านมองว่าเป็น "นักท่องเที่ยวเกรดรอง" ที่มุ่งมาหาความสนุกสนาน เสพกัญชา สร้างความวุ่นวายในพื้นที่สาธารณะอย่างหาดศรีธนูและ Zen Beach ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากยุโรปลดลงกว่า 80%

สิ่งที่จุดชนวนให้เกิดกระแสทวงคืนเกาะอย่างรุนแรง คือพฤติกรรมที่ถูกร้องเรียนจากคนในพื้นที่:

ไม่เคารพกฎหมายและสังคม:
มีการจอดรถตามใจชอบ ส่งเสียงดังในเวลาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงข้อกล่าวหาเรื่องการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ตัดต้นไม้ และทำธุรกิจเช่ารถ-เช่าห้องพักกันเองโดย ไม่เสียภาษี

พฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ:
มีรายงานจากชาวเยอรมนีบนเกาะพะงันว่า มีพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติ โจมตีชาวอาหรับและมุสลิมเพราะศาสนา และมีความรู้สึกว่า "ตนเองเป็นเจ้านายของประเทศไทย"

การก่อตั้ง "ชุมชนปิด":
บนเกาะมีการก่อตั้ง "ชาบัด" หรือศาสนสถานของชาวยิวขนาดใหญ่ ซึ่งไม่ให้คนไทยได้เข้าไป ซึ่งสร้างความกังวลว่านี่คือการสร้าง "ชุมชนเฉพาะ" ที่แยกตัวออกจากสังคมไทย

กลุ่มทหารผ่านศึก:
พบว่ากลุ่มชาวอิสราเอลที่เข้ามาจำนวนมาก คือ ทหารผ่านศึกสงคราม หรือผู้ที่มีบาดแผลทางใจจากการสู้รบ ที่เดินทางมาพักผ่อนและเข้าศูนย์บำบัดจิตใจที่เปิดขึ้นบนเกาะ ทำให้บางพื้นที่ยิ่งมีความซับซ้อนและแตกต่างจากวิถีเดิมๆ

คำกล่าวของชาวพะงันที่ไปคาเฟ่แล้วพบว่ามีชาวอิสราเอล 50 คน, ชาวพม่า 3 คน และมีคนไทยแค่คนเดียว เป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงของ "อัตลักษณ์" บนเกาะพะงันที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่า "เรากำลังเป็นชนกลุ่มน้อยในบ้านตัวเอง"

ทั้งหมดนี้คือชนวนสำคัญที่ทำให้เกิดการรวบรวมข้อร้องเรียน และการเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน, การทำธุรกิจผิดกฎหมาย, และการจัดการกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่สร้างความเดือดร้อน เพื่อ "ทวงคืน" ความสงบและวิถีแบบไทยๆ กลับคืนสู่เกาะพะงันอีกครั้ง



สะเทือนวงการท่องเที่ยว! อิสราเอลกลืนเกาะพะงันจริงหรือ?


เครดิตแหล่งข้อมูล :
รีไร้ท์และเรียบเรียงจาก TNNNEWS


เครดิต :
เครดิต : ที่นี่ดอทคอม ทันทุกเรื่องฮิต


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์