เปิดใจ ป้าสมศรี เผยสาเหตุไม่ให้ น้องลูกพีช เข้าพบ!

 

วันที่ 22 เมษายน 2568 ที่กระทรวงยุติธรรม กรุงเทพฯ กัน จอมพลัง พาคุณป้าสมศรี ผู้เสียหาย เข้าร้องเรียนต่อ น.ส.เอมอร เสียงใหญ่ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอความคุ้มครองพยานและดำเนินการเรื่องการเยียวยาตามกฎหมาย กรณีถูกลูกชายอดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ขับรถ BMW ชนรถกระบะบนทางด่วน จนคุณลุงประจักษ์ สามีของคุณป้า ได้รับบาดเจ็บสาหัส

น.ส.เอมอร อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียน 2 ประเด็น คือ

1. การขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา สำหรับทั้งคุณลุงผู้ขับขี่และคุณป้าผู้โดยสาร ซึ่งในส่วนของคุณป้านั้นถือเป็นผู้เสียหายชัดเจนตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายฯ เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ส่วนคุณลุงอยู่ในกระบวนการสอบสวนของตำรวจ ซึ่งกรมฯ จะส่งเรื่องไปยังคณะอนุกรรมการที่จังหวัดปทุมธานีเพื่อพิจารณา โดยมีกรอบเวลาพิจารณาค่าเยียวยาไม่เกิน 21 วัน และต้องรอเอกสารทางการแพทย์ประกอบด้วย

 2. เรื่องความปลอดภัยของครอบครัวผู้เสียหาย ซึ่งทางกรมฯ จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพยาน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินความเสี่ยงและดูแลความปลอดภัยเบื้องต้น

กัน จอมพลัง กล่าวว่า คุณป้ายังคงหวาดกลัวคู่กรณี และขณะนี้ได้ประสานกระทรวงยุติธรรมให้ช่วยเหลือเรื่องการเยียวยาค่ารักษาพยาบาลที่ยังต้องดำเนินต่อไป นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่าจะมีการลอบทำร้ายตน ทำให้คุณลุงหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายไปด้วย จนปฏิเสธการรักษาอาการน้ำในปอดที่ต้องเจาะออก ตนจึงขอให้กระทรวงยุติธรรมส่งเจ้าหน้าที่มาคุ้มครองพยาน เพื่อให้คุณลุงมั่นใจในการรักษา

"เขาเป็นชาวบ้านธรรมดาที่มีปัญหากับครอบครัวนักการเมือง นี่ก็ 7 วันแล้ว อีกฝ่ายยังไม่เยียวยา การเยียวยาก็ไม่มีเงื่อนไขอะไร แค่รับผิดชอบค่ารักษาพยาบาล ไม่ใช่เอาเงิน 2 แสนมาฝากเจ้าหน้าที่... ท่านเป็นนักการเมือง 7 วัน ยังหาวิธีจ่ายเงินไม่ได้เลย มาบอกว่าผมกีดกัน ผมเป็นคนกลาง เลขาผมก็ไม่มีใครติดต่อมา หากเขาไม่อยากคุยกับผมก็คุยกับเลขาผมได้ ทางครอบครัวคุณยายเขาก็กลัวเรื่องการเก็บหลักฐานการพูดคุย เรื่องฝากเงินก็งงว่าจะฝากเงินสดทำไม จะโอนก็โอนไปโรงพยาบาล ไม่ต้องมาโอนเข้ามูลนิธิผม" กัน จอมพลัง กล่าว พร้อมขอบคุณผู้มีน้ำใจหลายท่าน รวมถึงคุณหนิง ปณิตา ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล

คุณป้าสมศรี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ภาพเหตุการณ์ที่รถชนแบริเออร์ยังติดตา และจำได้ว่าตนเองยกมือไหว้ขอโทษคู่กรณีซ้ำๆ เพราะไม่รู้ว่าทำผิดอะไร แต่คู่กรณีกลับชี้หน้าด่าว่าตนเองปาดหน้ารถ และพูดจาข่มขู่เรื่องค่าเสียหายรถยนต์ราคาแพง ก่อนจะเดินสะบัดก้นใส่หน้ารถจนคุณลุงได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากนั้นคู่กรณีก็ยังถอยรถมาชี้หน้าด่าซ้ำเติม โดยไม่แสดงความช่วยเหลือใดๆ มีเพียงพลเมืองดีที่เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งตนเองรู้สึกขอบคุณมาก

ส่วนเรื่องจดหมายจากคู่กรณีนั้น คุณป้าสมศรีกล่าวว่าเห็นแล้วแต่ยังไม่ได้อ่าน เพราะสภาพจิตใจยังไม่พร้อม ภาพอุบัติเหตุยังคงติดตา แม้กระทั่งตอนที่คู่กรณีบุกเข้าไปในโรงพยาบาลก็ยังรู้สึกตกใจและไม่ได้อนุญาตให้เข้าพบ ซึ่งทางโรงพยาบาลได้กันพื้นที่ไว้แล้ว แต่คู่กรณีก็ยังพยายามเข้ามาถึงหน้าประตู สำหรับเรื่องการพูดคุยนั้น คุณป้าสมศรีบอกว่าไม่รู้จะพูดคุยอะไร ขอให้เป็นหน้าที่ของลูกสาวและกัน จอมพลัง ส่วนสิ่งที่ต้องการคือให้คู่กรณีรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลและค่าซ่อมรถ สำหรับอาการของคุณลุงในขณะนี้ คุณป้าสมศรีเผยว่ามีอาการหวาดผวา ไม่ยอมให้พยาบาลฉีดยา เพราะระแวงว่าจะถูกทำร้าย