สาวสุดงง ฝากครรภ์9 เดือน ครบกำหนดคลอด จู่ๆลูกหาย
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอื่นๆ สาวสุดงง ฝากครรภ์9 เดือน ครบกำหนดคลอด จู่ๆลูกหาย
สุดช็อก! สองสามีภรรยา "ลูกหาย" หลังฝากครรภ์ครบ 9 เดือน โรงพยาบาลนัดเคลียร์ 10 ก.พ.นี้
เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เกิดเหตุสุดช็อกที่สร้างความสับสนและเจ็บปวดให้กับครอบครัวหนึ่งอย่างหนัก เมื่อ นายวิชาญ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี และ น.ส.รุ่งอรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ภรรยา ตัดสินใจเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังพบว่า "ลูกหาย" ทั้งที่ภรรยาเพิ่งตั้งครรภ์ครบกำหนดคลอดที่ โรงพยาบาลปทุมธานี
น.ส.รุ่งอรุณ เล่าว่า เริ่มตั้งครรภ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และไปฝากครรภ์ที่คลินิกแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ก่อนจะย้ายมาฝากครรภ์ที่ โรงพยาบาลปทุมธานี ในเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิบัตรทอง ตลอดระยะเวลาฝากครรภ์ ทุกอย่างเป็นไปอย่างปกติ เธอไปตรวจตามนัดทุกครั้ง พร้อมการอัลตราซาวด์ที่ยืนยันว่าเด็กมีพัฒนาการแข็งแรงดี
เมื่อถึงเดือนกันยายน 2567 ขณะตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน แพทย์แจ้งว่าพบถุงน้ำคร่ำอีก 1 ใบ อาจเป็นการตั้งครรภ์ซ้อน จึงแนะนำว่าอาจต้องผ่าคลอดก่อนกำหนด แต่เมื่อเธอไม่มีอาการผิดปกติ จึงนัดคลอดใหม่ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2567
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงวันนัด แพทย์แจ้งว่าปากมดลูกยังไม่เปิด จึงเลื่อนการผ่าคลอดเป็นวันที่ 25 ธันวาคม แต่สุดท้ายก็เลื่อนออกไปอีก เนื่องจากแพทย์อ้างว่าเธอมีอาการไอ ซึ่งอาจเสี่ยงต่อแผลผ่าตัด หลังจากนั้นแพทย์ยืนยันว่าการตั้งครรภ์นานถึง 44 สัปดาห์ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ
จนกระทั่งปลายเดือนมกราคม 2568 น.ส.รุ่งอรุณ สังเกตว่าลูกไม่ดิ้น จึงรีบไปที่โรงพยาบาลปทุมธานีโดยไม่ได้นัดหมาย แต่กลับได้รับแจ้งว่า "ไม่พบข้อมูลการฝากครรภ์" และเมื่อทำการตรวจอัลตราซาวด์ กลับพบว่าเธอมีการตั้งครรภ์เพียง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งขัดแย้งกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง
เธอจึงโต้แย้งว่าตนตั้งครรภ์ครบกำหนดและมีบันทึกการตรวจครรภ์ทุกเดือน พร้อมสมุดฝากครรภ์ แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่มีคำตอบ จนหลังจากเธอและสามีออกจากโรงพยาบาลได้ไม่นาน ทางโรงพยาบาลโทรกลับมาแจ้งว่า "พบสมุดฝากครรภ์และประวัติการฝากครรภ์แล้ว" พร้อมกล่าวขอโทษและยืนยันว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง
ทางโรงพยาบาลได้นัดหมายเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. แต่ยังไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ครอบครัวรู้สึกไม่มั่นใจ จึงตัดสินใจเข้าพบนายเอกภพเพื่อขอความช่วยเหลือ หวังให้เรื่องนี้ได้รับความเป็นธรรม
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ได้ประสานไปยัง ดร.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบอย่างโปร่งใส เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
เรื่องนี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเด็กในครรภ์ แต่ยังสะท้อนถึงระบบการจัดการของโรงพยาบาล ซึ่งจะมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในการเจรจาในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้.