ธรรมนัส ไม่รู้ค่าหัว 30 ล้าน สั่งตายสจ.โต้ง
ธรรมนัส ปฏิเสธรู้เรื่องค่าหัว 30 ล้าน สั่งตาย สจ.โต้ง ยันช่วย สจ.จอย ตามที่รับปาก
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 ที่รัฐสภา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกระแสข่าวใบสั่งค่าหัว 30 ล้านบาทที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง โดยยืนยันว่าเขาไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนและได้ยินข่าวพร้อมกับสื่อมวลชนเท่านั้น พร้อมชี้ว่าเรื่องนี้คงอยู่ในความดูแลของพนักงานสอบสวนจากจังหวัดปราจีนบุรี และการโอนคดีไปยังกองบังคับการปราบปราม ซึ่งคงไม่สามารถให้ข้อมูลได้มากเกินไปเพื่อไม่ให้เสียรูปคดี
เมื่อถูกถามถึงความสัมพันธ์กับ สจ.โต้ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ตนเป็นคนในวงการมวย จึงพบกับ สจ.โต้งบ่อยๆ ในสนามมวยและรู้จักกับเขามานาน แต่ไม่ได้คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น ส่วนเรื่องการเมืองในท้องถิ่นนั้น ตนให้เกียรติและเคารพนายสุนทร วิลาวัลย์ หรือ "โกทร" นายก อบจ.ปราจีนบุรี ซึ่งเขายืนยันแล้วว่าจะไม่มีปัญหาหากลงสมัครเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุนทรเขียนจดหมายจากเรือนจำยืนยันความบริสุทธิ์ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่าเรื่องนี้คงต้องปล่อยให้พนักงานสอบสวนเป็นผู้ดูแลและพิจารณาหลักฐานทั้งหมด
ในส่วนของการลงสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรีของ น.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ซึ่งเป็นภรรยาของ สจ.โต้ง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า สจ.จอยได้สมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยก่อนเกิดเหตุและได้รับการสนับสนุนให้ลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรีโดยไม่มีความลังเล เมื่อปรึกษากับตนแล้ว จึงมีความมั่นใจที่จะลงสมัครต่อไป
เขายืนยันว่าได้ให้คำมั่นกับ สจ.โต้งก่อนเสียชีวิตว่าจะช่วยเหลือ สจ.จอยในการหาเสียง โดยตนเอง, นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์, และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ต่างก็รับปากว่าจะร่วมมือกันสนับสนุนอย่างเต็มที่
เมื่อถูกถามถึงความกังวลเรื่องอิทธิพลจากบ้านใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เขาเชื่อมั่นในความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจและมองว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักการเมืองที่ไม่สามารถใช้ระบบเก่าๆ ได้อีกต่อไป
สุดท้าย ร.อ.ธรรมนัสได้เผยว่า สจ.จอยได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจในการคุ้มครองความปลอดภัย และขอให้สื่อมวลชนเข้าใจว่าไม่จำเป็นต้องติดต่อเขาเพิ่มเติม เพราะไม่อยากตอบคำถามทีละสำนัก.