ข่าวช็อคโลก ปี2567 ต้องตกใจอะไรก่อนดี
คดีแม่ตั๊ก ฉ้อโกงประชาชน ขาย ทองปลอม
คดีนี้เป็นกรณีที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความร้องเรียนแม่ตั๊ก (กรกนกฎ) และป๋าเบียร์ (กานต์พล) ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีการขายทองคำที่ไม่ได้มาตรฐานผ่านไลฟ์สด และ สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) ตรวจพบว่ากำไลข้อมือปี่เซียะที่ขายนั้นทำจากทองที่มีมาตรฐานต่ำกว่า 18K ซึ่งสร้างความเสียหายและความไม่พอใจแก่ผู้ที่ซื้อสินค้าไปเป็นจำนวนมาก
คดีนี้ยังได้รับการกล่าวถึงมากยิ่งขึ้นเมื่อพบว่ามีการใช้ดาราและนักร้องมาโปรโมทผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นเหตุให้หลายคนตัดสินใจซื้อทองคำจากแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ทว่าพอเกิดการร้องเรียนและการตรวจสอบขึ้น ทำให้การขุดคุ้ยเบื้องหลังของธุรกิจนี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนถึงขั้นมีการออกหมายจับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้บุกค้นบ้านของแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ซึ่งพบทรัพย์สินมากมาย มีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นรถหรู เช่น แมคลาเรน, ปอร์เช่ และรถหรูอื่นๆ รวม 6 คัน การตรวจสอบทางกฎหมายในคดีนี้กำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น เนื่องจากเป็นกรณีที่กระทบถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในธุรกิจออนไลน์
คดีนี้เป็นกรณีที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความร้องเรียนแม่ตั๊ก (กรกนกฎ) และป๋าเบียร์ (กานต์พล) ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากมีการขายทองคำที่ไม่ได้มาตรฐานผ่านไลฟ์สด และ สคบ. (สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค) ตรวจพบว่ากำไลข้อมือปี่เซียะที่ขายนั้นทำจากทองที่มีมาตรฐานต่ำกว่า 18K ซึ่งสร้างความเสียหายและความไม่พอใจแก่ผู้ที่ซื้อสินค้าไปเป็นจำนวนมาก
คดีนี้ยังได้รับการกล่าวถึงมากยิ่งขึ้นเมื่อพบว่ามีการใช้ดาราและนักร้องมาโปรโมทผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นเหตุให้หลายคนตัดสินใจซื้อทองคำจากแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ทว่าพอเกิดการร้องเรียนและการตรวจสอบขึ้น ทำให้การขุดคุ้ยเบื้องหลังของธุรกิจนี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตจนถึงขั้นมีการออกหมายจับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้บุกค้นบ้านของแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ ซึ่งพบทรัพย์สินมากมาย มีมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็นรถหรู เช่น แมคลาเรน, ปอร์เช่ และรถหรูอื่นๆ รวม 6 คัน การตรวจสอบทางกฎหมายในคดีนี้กำลังดำเนินการอย่างเข้มข้น เนื่องจากเป็นกรณีที่กระทบถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในธุรกิจออนไลน์
ปรากฏการณ์ น้องหมูเด้ง ฮิปโปแคระสาวน้อยที่ตกคนไปทั่วโลก
น้อง "หมูเด้ง" ฮิปโปแคระสาวน้อยจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี กลายเป็นขวัญใจโซเชียลที่ใครๆ ก็หลงรัก ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก น้องเป็นลูกสาวฮิปโปแคระดาวเด่นที่มีช่อง TikTok ของตัวเองชื่อ "ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง" มีผู้ติดตามกว่า 2.4 ล้านคน
ชื่อ "หมูเด้ง" ได้มาจากการโหวตของชาวเน็ตกว่า 20,000 คน โดยมีตัวเลือกน่ารักๆ อย่าง หมูแดง หมูสับ แต่ "หมูเด้ง" ชนะไปอย่างท่วมท้น น้องโด่งดังเพราะพฤติกรรมขี้เล่นและแสนซน เช่น ชอบไล่งับเจ้าหน้าที่และส่งเสียงโวยวายเมื่อถูกอุ้ม จนกลายเป็นความน่ารักที่ทุกคนต้องยิ้มให้
ความดังของน้องได้สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วโลก กลายเป็นเสาหลัก1ใน3ของซอร์ฟพาวเวอร์ไทย ร่วมกับ ลิซ่า BLACKPINK และ อาหารไทยกระแสของน้องยังทำให้มีคนเข้าชมที่สวนสัตว์แน่นขนัดตั้งแต่เช้า สวนสัตว์เปิดเขาเขียวยังต่อยอดความนิยมของน้องด้วยการออกกางเกงลายน้องหมูเด้งเป็นสินค้าสุดฮิตอีกด้วย
คดี "ดิไอคอน"
คดี "ดิไอคอน" กลายเป็นข่าวร้อนแรงเมื่อดาราและคนดังระดับประเทศ อย่างกันต์ กันตถาวร, มิน พีชญา และแซม ยุรนันท์ ที่ทำหน้าที่เป็น "บอส" หรือผู้บริหารบริษัท ต้องกลายเป็นผู้ต้องหา หลังถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในธุรกิจที่คล้ายแชร์ลูกโซ่
เหตุเริ่มจากผู้เสียหายเข้าร้องเรียนว่าถูกชักชวนให้ลงทุน โดยเริ่มจากการสมัครเป็นตัวแทนขายสินค้า เปิดบิลสต็อกสินค้า และถูกสอนวิธีขายผ่านช่องทางออนไลน์ แต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้ว กลับพบว่าสินค้าที่ได้มาขายไม่ได้จริงตามที่โฆษณาไว้ สินค้ามีราคาสูงและไม่เป็นที่รู้จักในตลาด สุดท้ายกลายเป็นว่าเน้นการหาสมาชิกเครือข่ายมากกว่าการขายสินค้า
จากนั้นมีการรายงานข่าวนี้ในรายการโหนกระแส ทำให้เรื่องนี้เป็นที่จับตามอง และต่อมาในวันที่ 10 ตุลาคม ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่กองปราบฯ สร้างความตื่นตะลึงในวงการ จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้บริหารถึง 18 คน รวมถึงบอสใหญ่ของบริษัทและดาราชื่อดังทั้งสาม
ทนายตัม ษิทธา และ เงินปริศนา 71 ล้าน
คดีนี้เกี่ยวกับ น.ส.จตุพร (อ้อย) อุบลเลิศ เศรษฐินีชาวไทยในฝรั่งเศสที่ออกมาร้องทุกข์และดำเนินคดีกับ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ในข้อหาฉ้อโกง เริ่มขึ้นเมื่อ น.ส.จตุพร อ้างว่าได้โอนเงินให้ทนายตั้มกว่า 2 ล้านยูโร (ประมาณ 71 ล้านบาท) เพื่อร่วมลงทุนซื้อแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ แต่กลับไม่มีความคืบหน้า ขัดกับคำบอกเล่าของฝั่งทยานตั้มที่อ้างว่าได้เงินมาจากความเสน่หา นำไปสู่การแจ้งความที่ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และย้ายคดีไปยัง กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.)
ต่อมาทางเพจเฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ได้เผยแพร่คลิปที่ น.ส.จตุพรและเลขาส่วนตัวออกมาเล่าถึงการจ้างทนายตั้มในราคาเดือนละ 300,000 บาท โดยเงินที่โอนไม่ได้เข้าบัญชี
ทางทนายตั้มออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาไม่รู้สึกกังวลกับคดีนี้ และยืนยันข้อเท็จจริงที่เคยให้กับสื่อมวลชน พร้อมทั้งสั่งให้ทีมงาน บริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อต่อสู้คดี เขายังปฏิเสธการติดต่อหรือเจรจาขอคืนเงินกับ น.ส.จตุพร และไม่มีความคิดที่จะฟ้องกลับ