ไปรษณีย์ไทย ส่งของช่วยน้ำท่วมฟรี พร้อมแนะวิธีจ่าหน้าซอง
ทั้งนี้จะมีการเปิดรับบริจาคสิ่งของที่จำเป็นที่เคาท์เตอร์ให้บริการ และบริการ Pick up Service ขนส่งด้วยบริการส่งด่วน EMS โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2567
ซึ่งทางด้าน ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่าไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานการสื่อสารและขนส่งของชาติ ภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เร่งสนับสนุนส่งต่อความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่กำลังประสบกับอุทกภัย ภายใต้โครงการ "ไปรษณีย์ไทย...เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" โดยเฉพาะในกลุ่มจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากพายุ "ยางิ" จนเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในหลายพื้นที่ ซึ่งจะใช้เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศและศักยภาพในการเข้าถึงทุกพื้นที่เป็นสื่อกลางรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นจากผู้ที่ประสงค์บริจาค และนำไปส่งมอบให้กับผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ โดยเปิดบริการให้ลูกค้า/ ประชาชนได้ฝากส่งสิ่งของบริจาคผ่านไปรษณีย์ทั่วประเทศ ด้วยบริการ EMS ผู้ประสงค์บริจาคสามารถนำสิ่งของมาฝากส่งได้ที่เคาน์เตอร์บริการของไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศได้ฟรี โดยจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม/ ชิ้น / กล่อง สำหรับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนที่ต้องการ ส่งของบริจาคจำนวนมาก สามารถประสานงานได้กับไปรษณีย์ที่ให้บริการในพื้นที่ เพื่อใช้บริการรับฝากนอกสถานที่ (Pick up Service) โดยจะส่งต่อสิ่งของไปรวบรวมที่ศาลากลางจังหวัดที่ได้รับผลกระทบต่อไป
ดร.ดนันท์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการช่วยเหลือทั้ง 2 รูปแบบภายใต้โครงการ "ไปรษณีย์ไทย...เชื่อมโยงน้ำใจ ส่งต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม" ได้เริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ตุลาคม 2567 พร้อมกันนี้ ไปรษณีย์ไทยยังคงเดินหน้าให้บริการนำจ่ายสิ่งของในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตามปกติ ผ่านการใช้เครือข่ายที่ครอบคลุมและเข้าถึงทุกพื้นที่ อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจกังวลถึงความปลอดภัยของสิ่งของ พัสดุ หรือเอกสาร ไปรษณีย์ไทยและเจ้าหน้าที่นำจ่ายมีระบบ ในด้านการดูแลความปลอดภัยกับของทุกชิ้น เมื่อของถึงมือผู้รับจะยังคงสภาพที่ดีและมีความปลอดภัย ซึ่งในบางพื้นที่อาจมีความล่าช้าบ้าง เนื่องจากสภาพเส้นทางที่จะเข้าไปนำจ่ายไม่เอื้ออำนวย โดยผู้ที่ได้รับผลกระทบที่อยู่ในพื้นที่ต่างๆ สามารถติดตามสถานะการให้บริการและการนำจ่ายได้ผ่าน Line Official @Thailand Post