แม่น้องการ์ตูน สู้คดี10ปี ขอยอมแพ้ ฝากข้อความสุดท้ายถึงคู่กรณี


แม่น้องการ์ตูน สู้คดี10ปี ขอยอมแพ้ ฝากข้อความสุดท้ายถึงคู่กรณี


กรณีที่ "น้องการ์ตูน" ถูกรถกระบะแต่งซิ่งเมาแล้วขับแข่งกันมา จนเสียหลักพุ่งชนร้านร้านสเต็ก ปากซอยเอกชัย 119 เมื่อปี 2557 ส่งผลให้พ่อของน้องการ์ตูนเสียชีวิต ส่วนน้องการ์ตูนพิการกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ส่งผลให้ชีวิตคนในครอบครัวเปลี่ยนแปลง คนขับรับโทษติดคุก 1 ปี ไม่รอลงอาญาจ่ายค่าชดเชย 6 ล้านบาท ก่อนได้รับการปล่อยตัว จนถึงวันนี้ผ่านมา 10 ปี คู่กรณีไม่เคยมาเยี่ยม เยียวยาและปฏิบัติตามคำสั่งศาล ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.67 คุณแม่น้องการ์ตูน ออกมาโพสต์ตัดพ้อ ผ่านทางเฟซบุ๊ก ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House "ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ" โดยระบุว่า "สู้ก็แพ้ ไม่สู้ก็แพ้ ขอสรุป บทชีวิตของแม่และน้องการ์ตูน ในเดือนที่เกิดเหตุ 19 กันยายน 2557 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครให้อยากเกิดขึ้น และคดีความจะหมดในวันที่ 19 กันยายน 2567"

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน (Cartoon's Mom Steak House) ร้านของครอบครัวน้องการ์ตูน ซึ่งตอนนี้มีคุณแม่เป็นผู้ดูแลทุกอย่าง หลังสูญเสียคุณพ่อและน้องที่พิการติดเตียง โดยคุณแม่เปิดขายสเต็กและกาแฟ รับทำข้าวกล่อง รวมถึงขายของออนไลน์ น้ำพริก ขนม เป็นรายได้หลัก ที่ทำมาหากินเลี้ยงน้องมาจน 10 ปี




น.ส.ศรัญญา ชำนิ แม่ของน้องการ์ตูน เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์' ระบุว่าวันที่ 19 ก.ย.67 ที่จะถึงนี้ จะครบ 10 ปีที่คุณพ่อน้องการ์ตูนเสียชีวิต และน้องที่โดนรถชนจนพิการติดเตียง ตนจึงมานั่งคุยกันภายในครอบครัวและทางทีมงานแอดมินว่า พวกเราสู้กันมาตั้งแต่ปีแรกที่รถชน ขึ้นศาลทุกชั้นศาล ผ่านขบวนการตำรวจ ครบตามข้อกฎหมายทุกประการ หลังจากศาลตัดสินมา ตนก็ต่อสู้โดยการยื่นฟ้องคู่กรณี มีทนายหลายท่านเข้ามาช่วย แบบไม่คิดค่าใช้จ่ายจนห่างหายกันไป

ปีนี้คือปีที่ 10 เหลือระยะเวลาอีกไม่นาน ที่คดีความจะหมดอายุ ตนคิดว่าสุดท้ายสิ่งที่จะทำได้คือการฟ้องล้มละลาย ซึ่งเป็นสุดทางของข้อกฎหมายแล้ว ตลอดระหว่าง 10 ปี ตนคิดว่าตนพยายามสู้ทุกวิถีทางแล้ว เพื่อให้คู่กรณีได้มาเยียวยาบ้าง แต่เขาไม่เคยติดต่อกลับมาหรือมาเยี่ยมแม้แต่ครั้งเดียว กลับกลายเป็นฝั่งตนที่ไปสืบทราบเองว่า เขาอยู่ที่ไหน ทำอะไร มีคนอื่นมาบอกบ้าง ตนก็รับรู้หมดทุกอย่าง

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่สามารถบังคับให้เขาชดใช้ได้อยู่ดี เข้าใจว่าฝั่งเขาคิดว่าติดคุก 1 ปีไปแล้ว สามารถออกมาก็ใช้ชีวิตสุขสบายขายของ นั่งเล่นโทรศัพท์ ได้เล่นกับลูก มีลูกใหม่ ใช้ชีวิตครอบครัวเหมือนคนปกติ แต่ตนกลับไม่ได้ใช้ชีวิตครอบครัวเหมือนเดิมอีกแล้ว หลังจากที่เขามาก่อเหตุ




แม่น้องการ์ตูน สู้คดี10ปี ขอยอมแพ้ ฝากข้อความสุดท้ายถึงคู่กรณี

"วันที่เกิดเหตุเมื่อ 10 ปีที่แล้ว น้องกำลังช่วยคุณพ่อเก็บโต๊ะอยู่หน้าร้าน คู่กรณีขับรถแข่งกันมาแล้วเสียหลักพุ่งชนร้าน 5-6 ร้าน แต่ร้านแม่เป็นร้านเดียวที่ยังเปิด ไม่รู้ว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายที่ตอนเกิดเหตุอยู่ในครัวคนเดียว ส่วนคุณพ่อเอาตัวบังน้องจนเสียชีวิต น้องการ์ตูนที่จากเด็กปกติกลายเป็นพิการติดเตียง

โดนรถชนจากตอนนั้นเป็นเด็กหญิง 5 ขวบ ตอนนี้เป็นนางสาวแล้ว ซึ่งในรถคู่กรณีมี 2 คน เป็นผู้ชายกับผู้หญิง แต่รถพอชนแล้วตะแคง คนที่ขึ้นมาก่อนคือผู้ชาย เขาบอกว่าเขาขับเอง ตำรวจก็ไม่ได้พิสูจน์ว่า ขับรถเป็นไหมเมาหรือเปล่า ก็ทำอะไรไม่ได้ ตอนนั้นมันไม่เหมือนยุคนี้ ต้องพึ่งตัวเองทุกอย่าง" น.ส.ศรัญญา กล่าว

น.ส.ศรัญญา กล่าวต่อว่า ตนรู้สึกว่า สู้มา 10 ปีก็ยังแพ้ ไม่สู้ก็แพ้อยู่ดี สิ่งเดียวที่ชนะคือ ได้คำสั่งศาลเป็นกระดาษแผ่นนึง ตนจึงคิดว่าคงพอแล้วกับเหตุการณ์นี้ ที่ผ่านมามันค่อนข้างเหนื่อยมาก คงทำอะไรไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

ถ้ามีคนถามว่าเหนื่อยไหม ตนอยากบอกมันเหนื่อย ไม่มีใครไม่เหนื่อย ดูแลคนป่วยธรรมดาก็ยากแล้ว แต่ตนต้องดูแลลูกที่ติดเตียง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่สามารถตอบโต้ตอบสนองได้ กายนึงตนเป็นแม่ ทำได้ทุกอย่าง เหนื่อยแค่ไหนก็ทนได้ แต่อีกกายนึง ตนก็รู้สึกว่าต้องเข้มแข็งอีกขนาดไหน อดทนมาได้ขนาดนี้ ก็เก่งแล้วนะ


แม่น้องการ์ตูน สู้คดี10ปี ขอยอมแพ้ ฝากข้อความสุดท้ายถึงคู่กรณี

น.ส.ศรัญญา กล่าวว่า เรื่องราวที่โพสต์ลงไป ตั้งใจว่าอยากให้เคสของตนเป็นอุทาหรณ์ เพราะเคสตนไม่ใช่เคสเดียวในประเทศไทยที่โดนกระทำแบบนี้ แล้วไม่ได้รับการเยียวยา อยากให้ข้อกฎหมายคิดถึงจิตใจเหยื่อมากกว่านี้

มันยังมีช่องโหว่สำหรับคนกระทำผิดมากกว่าเหยื่อ ที่หลังจบขบวนการกฎหมายแค่ชั้นศาล ต้องไปสืบเอง หาเอง ทำเองทั้งหมดหมด โดยไม่มีหน่วยงานมาช่วยเหลือเหยื่อได้มากกว่านี้


รวมถึงการที่คู่กรณีไม่รู้สึกสำนึกผิด ไม่เคยคิดจะเยี่ยวยาหรือชดเชยอะไร น่าจะมีโทษที่หนักเพื่อให้คนกระทำความผิดรู้สึกกลัว


แม่น้องการ์ตูน สู้คดี10ปี ขอยอมแพ้ ฝากข้อความสุดท้ายถึงคู่กรณี


"สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณสื่อมวลชนทุกท่าน แฟนเพจ และกำลังใจจากคนไทยทั่วประเทศ ที่ให้มาเสมอตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา ณ ตอนนี้ ขอพอแล้วกับเรื่องกฎหมาย ยอมรับว่าได้แค่ไหนคือแค่นั้น พยายามสู่จนสุดทางแล้ว นับจากนี้ขอใช้ชีวิตดูแลน้องการ์ตูนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดลมหายใจ และขอให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับทุกคนที่ขับขี่บนท้องถนน การขับขี่ด้วยความประมาท อาจจะทำให้คนอื่นเสียใจหรือเป็นทุกข์ได้แค่ไหน" แม่น้องการ์ตูน กล่าว

ส่วนคู่กรณี ที่ตนเคยฝากถึงไว้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ตนจะฝากถึง "คุณได้ดูข่าวเราตลอด และเราก็ได้เห็นคุณเหมือนกัน แต่เราแค่ไม่เคยพูดถึง ถ้าคุณคิดว่าคุณใช้ชีวิตสุขสบายได้ คุณลองติดต่อหรือเข้ามาคุยกับเรา เราไม่ได้เป็นคนที่โหดร้าย แต่คุณแทบจะไม่รู้สึกหรือสำนึกเลยด้วยซ้ำ ในสิ่งที่ทำกับครอบครัวเรา แต่คุณเลือกที่จะนิ่งเฉยให้หมดคดีความตามข้อกฎหมายเท่านั้นเอง"



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์