อนุทิน ลงพื้นที่เครื่องบินเล็กตก ตั้งข้อสงสัยลักษณะร่วง ไม่ใช่ร่อน

การค้นหาขณะนี้กู้ภัย ได้ร่วมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน หลังรถแบคโฮขุดดินขึ้นมาตรงจุดที่เครื่องบินตก จะใช้มือสัมผัส เพื่อค้นหาชิ้นส่วนมนุษย์ กู้ภัยเร่งใช้แบคโฮขุดลงไปให้ลึก ประมาณ 10 เมตร ซึ่งคาดว่าส่วนหัวของเครื่องบิน และน่าจะมีหลักฐานสำคัญอยู่ในบริเวณดังกล่าว

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ โดยระบุว่า เครื่องบินตกลงมาด้วยความเร็ว และกระแทกพื้นด้วยความแรง ตัวเครื่องบิน เจาะลึกลงไปในโคลน ลึกมาก ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย อยู่ใต้ดิน สาเหตุต้องรอผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์ เชื่อว่าจะสามารถสรุปได้ เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือไปที่ FAA ผู้ผลิตเครื่องบินลำดังกล่าวของสหรัฐอเมริกา คาดว่าจะมีการส่งตัวแทนมาช่วยพิสูจน์หาสาเหตุ เพราะจากข้อมูลพบว่า เครื่องบินไม่ได้ตก เนื่องจากไม่มีการร่อนลง แต่เป็นการดิ่งลงหรือร่วงลง ในระยะความเร็ว 70-80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง

ส่วนอายุการใช้งานของเครื่องบิน ไม่น่าจะเป็นเหตุที่ต้องมาสงสัย เพราะก่อนเครื่องบินยกตัว นายช่างจะมีการตรวจสอบความปลอดภัยทุกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาในที่เกิดเหตุเพื่อติดตามการค้นหาของเจ้าหน้าที่ ซึ่งแต่ละครอบครัวอยู่ในความโศกเศร้ากับความสูญเสียที่เกิดขึ้น

สำหรับการเยียวยาพื้นที่ทางการเกษตร ที่เป็นจุดตกของเครื่องบิน นายอนุทิน ระบุว่าทางเครื่องบินต้องมีประกันบุคคลที่ 3 เครื่องบินลำนี้ เป็นเครื่องบินที่ใช้ในการพาณิชย์ มีกฎระเบียบมาตรการต่างๆ

ซึ่งนอกจากชิ้นส่วนมนุษย์แล้ว ในส่วนของซากชิ้นส่วนของเครื่องบินจะมอบให้กับ เจ้าหน้าที่ด้านการบินและ พนักงานสอบสวน เพื่อประสานการตรวจสอบการหาสาเหตุของอุบัติเหตุว่าเครื่องบินลำดังกล่าวเสียทรงตัวตกลงมาได้อย่างไร

โดยขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาเบื้องต้นเพราะผลการค้นหามีความคืบหน้าไปมากคงเหลือแต่การระดมค้นหาชิ้นส่วนขนาดเล็ก ซึ่งทีมงานบางส่วนจะยังคงเดินหน้าเร่งค้นหาต่อไปอีกระยะ

ขณะเดียวกัน ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ยังยอมรับว่าอุปสรรคของการทำงานครั้งนี้ คือการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของผู้เสียชีวิต เนื่องจากชิ้นส่วนที่พบมีจำนวนมากกว่า 80 ชิ้นบางชิ้นเป็นชิ้นส่วนชัดเจนแต่บางชิ้นส่วนไม่สามารถระบุได้ว่าคืออะไรจึงทำให้การตรวจสอบเป็นไปได้ยาก