ทนายเดชา มั่นใจ หมอเกศ ไม่หลุดสว.
ล่าสุดทนายเดชา ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการ เปิดโต๊ะข่าว ทางช่อง PPTV HD 36 ว่าตนและดร.พญ.เกศกมล ยังคงเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายและยังมีการพูดคุยกันในทุกวัน
ทั้งนี้เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่ายังรู้สึกมั่นใจในลูกความอยู่ใช่หรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า ตนมีหน้าที่เฉพาะให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย ส่วนเรื่องวุฒิปลอม ด็อกเตอร์ปลอม ศาตราจารย์ปลอม เป็นหน้าที่ของ ดร.พญ.เกศกมล และทีมด็อกเตอร์อีกสองคน ที่จะต้องเป็นคนรับรองความมีอยู่จริง หรือความถูกต้องของเอกสาร หน้าที่ของตนมีเท่านี้ในการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า เบื้องต้นได้ให้คำปรึกษากับ ดร.พญ.เกศกมล อย่างไรบ้าง นายเดชา กล่าวว่า หาก ดร.พญ.เกศกมล ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องจริงและถูกต้อง ก็ต้องสู้คดีกันไป หากสมมติมีการดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อถามอีกว่า ทนายได้มีการตรวจสอบด้วยตนเองหรือไม่ว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของจริงหรือของปลอม นายเดชา กล่าวว่า เอกสารต่างๆ นั้น ดร.พญ.เกศกมล มีทีมด็อกเตอร์สองคน และมีด็อกเตอร์อีกประมาณ 5-6 คน และทีมงานนำเสนอว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งตนไม่ทราบ เพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวุฒิ ด้านศาสตราจารย์ หน้าที่ของทนายความคือ หากลูกความยืนยัน เราก็จะทำคดีตามนั้น
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ ดร.พญ.เกศกมล มั่นใจในสถาบันดังกล่าว และมั่นใจว่าทุกอย่างถูกต้องตามกระบวนการใช่หรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า มั่นใจ ก่อนหน้านี้ก็มีนักการเมืองเข้าไปใช้บริการที่นั่น แล้วผ่านพ้นไปได้ด้วยดี คงไม่ต้องเอ่ยชื่อท่าน
เมื่อถามอีกว่า ตำแหน่งศาสตราจารย์ ผู้คนมีความสงสัยเป็นอย่างมากว่า จะต้องเรียนจบและต้องเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยก่อนจึงจะได้เป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ (ผศ.) รองศาสตราจารย์ (รศ.) และ ศาสตราจารย์ (ศ.) ตามลำดับ ส่วน ดร.พญ.เกศกมล นั้นต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าสอนหนังสือที่นั่นใช่หรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า ไม่ต้องพิสูจน์ ตนในฐานะที่เป็นทนายความ ลองมองประเด็นที่เขากล่าวหาเราว่าเป็นประเด็นใด และฐานความผิดใด หากกล่าวหาว่าเราปลอมวุฒิ เราก็หลุดไปแล้ว เราไม่ได้ปลอม ทุกสิ่งทุกอย่าง เราได้มาจากสถาบันแห่งนี้ โดยถูกต้องเท่านั้นก็จบแล้ว
ส่วนจะเป็นผู้ช่วยศาสตราจารย์ เป็นรองศาสตราจารย์ หรือเป็นศาสตราจารย์ เมื่อคืนผมนั่่งทานอาหารกับด็อกเตอร์ 4-5 คนซึ่งเป็นเพื่อนของผมที่จบปริญญาเอกจากต่างประเทศ เขาบอกว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันว่าจะมีกระบวนการอย่างไร ในประเทศไทยอาจเป็นแบบที่หลายท่านพูดถูกต้องแล้ว แต่ของเราไม่ได้เกี่ยว และไม่ได้ทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือไม่นั้น ก็ไม่มี
เมื่อถามอีกว่า เรื่องสถานะ สว. ว่ามีคนเข้าใจผิด คนที่เป็นผู้สมัคร สว. กลุ่มเดียวกับ ดร.พญ.เกศกมล เรื่องนี้จะอธิบายอย่างไรได้บ้าง นายเดชา กล่าวว่า ง่ายนิดเดียว ใครจะกล่าวหาเรา กกต.ต้องเริ่มกระบวนการไต่สวน ระบบการไต่สวนเป็นระบบการค้นหาข้อเท็จจริง ก็เริ่มกระบวนการไต่สวนไปว่ามีบุคคลรายหนึ่งที่อ้างว่าคุณได้มีความสำคัญผิดในคะแนนนิยม หรือในฐานะความรู้และประสบการณ์ของ ดร.พญ.เกศกมล อย่างไรก็ว่ากันไป ไม่ใช่เรื่องยากในการที่จะไปสู้คดี
คือทำให้สำคัญผิดเกี่ยวกับเรื่องคะแนนนิยม หรือคุณวุฒิ ก็ต้องไปพิสูจน์ว่าสำคัญผิดอย่างไรต้องชี้แจง สำคัญผิดในเรื่องที่ไม่จริง ของเราไม่มีเรื่องที่ไม่จริง มีแต่เรื่องจริง ส่วนตำแหน่งด็อกเตอร์ และศาสตราจารย์ เราได้มาจริง แต่สถาบันจะเชื่อถือได้หรือไม่ได้ ไม่น่าเกี่ยวกับรูปความ ตนสนใจแต่ประเด็นกฎหมาย
เมื่อถามต่อว่า นายเดชาเป็นที่ปรึกษากฎหมายในขั้นตอนที่หากต้องสู้กับ กกต. ก็ต้องไปใช่หรือไม่ นายเดชา กล่าวว่า สถานภาพตอนนี้ตนเป็นทนายของ ดร.พญ.เกศกมล อยู่ ดร.พญ.เกศกมล จะมีผู้หลักผู้ใหญ่ดูแลเยอะ ตนก็มีผู้หลักผู้ใหญ่ฝากมาเท่านั้น ถึงตอนนั้นตนอาจจะเป็นหรือไม่เป็นก็ได้